หลายคนที่เป็นนิ้วล็อค ส่วนใหญ่ไม่อยากผ่าตัดเปิดแผล เพราะกลัวจะต้องใช้เวลาพักมือนาน เลยปล่อยไว้ไม่รักษา ซึ่งโรคนิ้วล็อค ผู้ป่วยจะมีอาการเริ่มต้นเจ็บบริเวณฐานนิ้ว

การกายภาพบำบัดยังสามารถนำมาฟื้นฟูให้กับคนที่ทรมาณจากอาการปวด ตั้งแต่อาการปวดเมื่อยจากการทำงาน โรคออฟฟิศซินโดรม ปวดเส้นประสาท ปวดจากข้อต่ออักเสบหรือเสื่อม

รู้หรือไม่ “นิ้วล็อค” ถ้ายิ่งปล่อยไว้นาน หรือรักษาไม่ถูกวิธี อาจทำให้ข้อที่ติดค้างงอไม่ลง อาจทำให้มีข้อยึด ซึ่งอาจส่งผลให้ข้อนิ้วยึดติด หรืออาจทำให้เส้นเอ็น และปลอกเส้นเอ็นเสียหายถาวร แม้จะรักษาด้วยการผ่าตัดก็อาจจะช้าเกินไป

ใครบ้างมีความเสี่ยงภาวะ “ออฟฟิศซินโดรม คนที่ต้องทำงานลักษณะเดิมหรืออยู่ในท่าทางเดิมต่อเนื่องเป็นเวลานานหลายชั่วโมงต่อวัน เช่น นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ ขับรถนาน ๆ พนักงานบัญชี เป็นต้น

หลายคนคงนั่งหักนิ้วผ่อนคลายกันอยู่ แล้วความเชื่อที่ว่าหักนิ้วบ่อยๆ ระวังเป็นนิ้วล็อค อันนี้จริงหรือเปล่า ?

อาการนิ้วล็อค ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมหรือกิจกรรมที่ใช้มือทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น การถือหรือแบกของหนักเป็นเวลานาน

ปวดกล้ามเนื้อส่วนต่าง ๆ ของร่างกายตามตำแหน่งกล้ามเนื้อที่ใช้งานมาก: ปวดต้นคอ บ่า สะบัก บั้นเอว และสะโพก อาการปวดสามารถเป็นได้ตั้งแต่ปวดตื้อๆ พอรำคาญ ไปถึงการปวดรุนแรงรบกวนชีวิตประจำวันหรือการนอนได้ ในบางครั้งอาจะทำให้เข้าใจผิดคิดว่าเป็นอาการปวดศรีษะหรือปวดไมเกรนได้

อาการนิ้วล็อค ส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมหรือกิจกรรมที่ใช้มือทำต่อเนื่องเป็นเวลานาน เช่น การถือหรือแบกของหนักเป็นเวลานาน ใช้อุปกรณ์ที่ต้องออกแรงกดต่อเนื่อง หรือแม้กระทั่งการใช้โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์มากเกินไป

โรค นิ้วล็อค มักมีอาการเจ็บที่ฝ่ามือ บริเวณใต้ข้อต่อโคนนิ้วมือ หากเป็นมากขึ้นอาจมีอาการสะดุดเวลากำหรือเหยียดนิ้วมือได้ โดยอาการของโรคมักพบมากหลังจากตื่นนอนตอนเช้า หรือตอนที่ใช้งานมือหนัก ๆ ต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน