ใครที่ชอบรับประทานอาหารไขมันสูง ต้องอ่านบทความนี้ เพราะการที่รับประทานอาหารที่มีไขมันสูงนอกจากจะเสี่ยงต่อโรคต่างๆ แล้ว อีกหนึ่งโรคที่จะตามมาคือนั่น

เมื่อมีอาการปวดท้องหลายคนอาจคิดเกิดจากโรคกระเพาะ แต่อาการปวดท้องอาจบ่งบอกว่าเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้เช่นกัน ถึงแม้ว่าจะมีอาการที่คล้ายกันมาก แต่ก็มีจุดสังเกตที่สามารถแยกโรคได้ดังนี้

หลายคนอาจจะเคยได้ยินวิธีการรักษานิ่วที่เรียกว่า “การสลายนิ่ว” ซึ่งเป็นการยิงคลื่นเสียงเข้าไปที่ก้อนนิ่ว เพื่อให้นิ่วแตกเป็นก้อนเล็ก ๆ หรือแตกจนสลายไป และออกมาพร้อมกับปัสสาวะ โดยที่ไม่ต้องทำการผ่าตัดและไม่ต้องดมยาสลบ แต่รู้หรือไม่ว่าการสลายนิ่วนั้น ไม่สามารถใช้กับโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้

สำหรับใครที่ได้รับการวินิจฉัยจากแพทย์ว่าตัวเองเป็นโรคนิ่วในถุงน้ำดี และได้รับคำแนะนำว่าควรผ่าตัดเอาถุงน้ำดีออก เพื่อป้องกันการเกิดภาวะแทรกซ้อนหรือการอักเสบ ก็อย่าเพิ่งกังวลใจไป ว่าถ้าไม่มีถุงน้ำดีในร่างกายแล้ว จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

นิ่วในถุงน้ำดี เมื่อรับประทานอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมัน ร่างกายจะขับน้ำดีออกมาเพื่อช่วยย่อยไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวจับกับน้ำย่อยตามระบบย่อยอาหารของร่างกาย โดยต้นทางของน้ำดี

โดยทั่วไปการตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดี จะพบได้จาก 2 รูปแบบ ไม่มีอาการ มักตรวจพบจากการตรวจสุขภาพ กลุ่มที่มีอาการ มักปวดจุก ๆ แน่น ๆ บริเวณลิ้นปี่ ตรวจพบจากการถูกส่งอัลตราซาวดน์ดูความผิดปกติของช่องท้องส่วนบนปัญหาที่ตามมา

ภาวะโรคอ้วนในประเทศไทย มีแนวโน้มขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง สะท้อนพฤติกรรรมของคนไทยในการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดโรคต่าง ๆ หนึ่งในนั้นคือโรคนิ่วในถุงน้ำดี

อุจจาระของคนเรา อาจมีสีที่แตกต่างกันไป ตามลักษณะน้ำย่อย น้ำดี และอาหารที่รับประทาน แต่ทุกคนคงทราบดีว่ามันไม่ควรมีสีแดงหรือมีเลือดปน

สมัยก่อนการรักษาไส้เลื่อนนั้นอาจจำเป็นจะต้องรักษาแบบเปิดบริเวณหน้าท้อง จากนั้นจะใส่วัสดุตาข่ายเข้าไปเพื่อเสริมความแข็งแรง แต่ปัจจุบันมีนวัตกรรมการผ่าตัดผ่านกล้องด้วยเครื่องมือเฉพาะ โดยมีข้อดีดังนี้