การใช้งานเข่าและข้อเข่าผิดวิธี นอกจากจะก่อให้เกิดการบาดเจ็บแล้ว ยังส่งผลให้เข่าหรือข้อเข่าเสื่อมก่อนเวลาอันควรด้วย และนี่คือ "10 พฤติกรรมที่ควรหลีกเลี่ยง" เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ และคงไว้ซึ่งความแข็งแรงของข้อเข่า

โรคข้อเข่าเสื่อม เกิดจากผิวข้อและโครงสร้างต่าง ๆ ของข้อเข่าเสื่อมสภาพ จนทำให้เกิดอาการเจ็บปวดขณะเดินหรือมีภาวะข้อเข่าผิดรูป ปัจจุบันพบผู้ป่วยในช่วงอายุที่น้อยลงเนื่องจากพฤติกรรมการงอเข่าเกิน 90 องศาโดยไม่จำเป็น เช่น นั่งขัดสมาธิ นั่งชันเข่าบ่อย เป็นต้น แม้ว่าโรคข้อเข่าเสื่อมจะไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้แต่สามารถชะลอการเกิดโรคได้ด้วยท่าบริหารง่าย ๆ

รักษาด้วยยา มีทั้งแบบรับประทาน ทา และฉีด เพื่อช่วยลดอาการปวด อักเสบ ชะลอโรค และซ่อมแซมผิวข้อเข่ากายภาพบำบัด ช่วยลดอาการปวดเข่าและเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อบริเวณขา

การรักษาข้อเข่าเสื่อมมีหลายวิธีขึ้นอยู่กับอาการและระยะของโรค แบ่งออกเป็น การรักษาแบบไม่ใช้ยา โดยจะให้ผู้ป่วยลดปัจจัยที่ทำให้เข่าเสื่อม

ปัญหาข้อเข่าที่พบบ่อยและหลีกเลี่ยงไม่ได้คือ #ข้อเข่าเสื่อม หากปล่อยให้เสื่อมมากอาจกระทบต่อการใช้ชิวิตประจำวัน รวมทั้งทำให้ข้อต่ออื่น ๆ ปวดและเสียสมดุลไปด้วย

เข่าเสื่อมเป็นภาวะที่เกิดขึ้มตามวัยและการใช้งาน ไม่สามารถเลี่ยงได้แต่ชะลอได้ด้วยการรีบพบแพทย์เมื่อพบความผิดปกติที่ข้อเข่า หากปล่อยไว้อาการอาจลุกลามจนต้องผ่าตัด

กระดูกพรุน , กระดูกบาง และมวลกล้ามเนื้อลดลง การเคลื่อนไหวผิดสมดุล การสูบบุหรี่และดื่มแอลกอฮอล์ การขาดการออกกำลังกายที่มีการลงน้ำหนัก การขาดสารแคลเซียมและวิตามินดีสะสม การได้รับยาบางชนิดในระยะเวลานาน โรคเรื้อรังบางชนิด เช่น ไทรอยด์เป็นพิษ

ผู้สูงวัยส่วนใหญ่ มักประสบภาวะกระดูกพรุน ประกอบการทรงตัวที่ไม่คล่องแคล่วกระฉับกระเฉงเท่าวัยหนุ่มสาว จึงมักเกิดอุบัติเหตุเกี่ยวกับการหกล้มและกระดูกหักได้ง่าย โดยเฉพาะกระดูกบริเวณสะโพก เนื่องจากเป็นบริเวณหลักในการรับแรงกระแทก

หากผู้สูงอายุประสบอุบัติเหตุลื่นล้ม และสงสัยว่ากระดูกสะโพกหักหรือส่วนใดส่วนหนึ่งเสียหาย ควรรีบโทรแจ้งโรงพยาบาล เพื่อให้ทีมเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเฉพาะทาง มาเคลื่อนย้ายผู้ป่วยกระดูกหัก เพื่อป้องกันไม่ให้กระดูกเคลื่อนตัว ลดการบาดเจ็บ และลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ป่วย