นายแพทย์นัทพล ธรรมสิทธิ์บูรณ์ โสต ศอ นาสิกแพทย์ โรงพยาบาลเวชธานี กล่าวว่า PM 2.5 ฝุ่นละอองขนาดเล็กที่หลายคนคงเคยได้ยิน หากใครที่มีการสัมผัสกับฝุ่นละอองชนิดนี้ อาจส่งผลกระทบที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและยาวได้ ดังนี้

ในช่วงฤดูหนาวหลายพื้นที่ของประเทศไทยต้องเผชิญศัตรูตัวร้ายต่อสุขภาพอย่าง PM 2.5 ล่าสุดหลายพื้นที่เริ่มมีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน อาจส่งผลให้คนที่มีโรคประจำตัวอย่างโรคภูมิแพ้

ภาวะคัดจมูกเรื้อรัง กระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโดยตรง ส่งผลให้เสียสมาธิในการเรียน การทำงาน ส่วนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ไม่สะดวกคล่องตัวเท่าใดนัก อีกทั้งยังลามไปถึงการนอนหลับพักผ่อน ก่อให้เกิดภาวะง่วงนอนตลอดวัน อันเนื่องมาจากการหลับไม่สนิท ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะคัดจมูก คือการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกด้านใน หรือผนังกั้นจมูก โดยผู้ป่วยมักมีอาการจาม น้ำมูกไหล ปวดศีรษะ และหายใจไม่สะดวก เป็นต้น

ใกล้เข้าหน้าหนาวทีไร ฝุ่น PM 2.5 ก็ต้องมาต้อนรับพร้อมกันทุกที ปีนี้ก็เช่นกัน ซึ่งฝุ่น PM 2.5 ถือเป็นศัตรูตัวฉกาจ เพราะด้วยความที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้อาการภูมิแพ้กำเริบและรุนแรงขึ้นได้

โรคภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบ เกิดจากที่ร่างกายของเกิดปฏิกิริยาตอบโต้กับสิ่งแวดล้อมที่เป็นสารก่อภูมิแพ้

ภาวะคัดจมูกเรื้อรัง กระทบต่อคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโดยตรง ส่งผลให้เสียสมาธิในการเรียน การทำงาน ส่วนการทำกิจกรรมต่าง ๆ ก็ไม่สะดวกคล่องตัวเท่าใดนัก

อาการคัดจมูกเรื้อรัง หายใจไม่สะดวก เป็นหนึ่งในอาการของโรคภูมิแพ้ ที่รบกวนการใช้ชีวิตประจำวันอย่างมาก โดยเฉพาะการนอนหลับพักผ่อน ปัจจัยที่ทำให้เกิดภาวะคัดจมูก คือการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกด้านใน หรือผนังกั้นจมูกการรักษาด้วยเทคนิคที่เรียกว่า RF (Radiofrequency) หรือการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาที่เหมาะกับผู้ที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา หรือมีอาการคัดจมูกที่เกิดจากเยื่อบุจมูกส่วนล่างโต ซึ่งมีกระบวนการรักษาดังนี้

ภาวะคัดจมูกเกิดจากการอักเสบของ เยื่อบุโพรงจมูกด้านใน หรือ ผนังกั้นจมูก ทำให้ผู้ป่วย น้ำมูกไหล จาม ปวดศีรษะ และ หายใจไม่สะดวก

ในสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 การหมั่นสังเกตอาการตนเองเป็นสิ่งจำเป็นมาก โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีประวัติสัมผัสกับพื้นที่เสี่ยงหรือกลุ่มเสี่ยง โดยอาการที่เป็นสัญญาณเตือนอย่างหนึ่งคือ จมูกสูญเสียการได้กลิ่น ซึ่งถึงแม้อาการนี้อาจจะเป็นสัญญาณเตือนของอีกหลายโรค แต่ก็ไม่ควรมองข้ามในสภาวะเช่นนี้