แค่ยกมือขึ้นก็ปวด! สัญญาณเตือนก่อนเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด

บทความสุขภาพ
แค่ยกมือขึ้นก็ปวด!

เคยสงสัยไหมว่าทำไมเวลายกแขนสูง ๆ ถึงรู้สึกปวดไหล่ หรือปวดไหล่จนทำให้นอนไม่หลับ อาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณเตือนของ เอ็นหัวไหล่ฉีกขาด โรคที่ค่อย ๆ กัดกินคุณภาพชีวิตให้แย่ลง ซึ่งบางคนอาการอาจรุนแรงจนไม่สามารถใช้แขนได้เหมือนเดิม

นายแพทย์รัฐภูมิ วัชโรภาส ศัลยแพทย์กระดูกและข้อ – เวชศาสตร์การกีฬาและโรคข้อไหล่และข้อเข่า โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล กล่าวว่า เอ็นหัวไหล่ฉีกขาด (Rotator Cuff Tear) เป็นภาวะที่พบได้บ่อยในกลุ่มคนที่ใช้งานหัวไหล่อย่างหนัก ไม่ว่าจะเป็นนักกีฬา ผู้ที่ต้องทำงานยกของหนัก หรือผู้สูงอายุที่มีกล้ามเนื้อและเอ็นอ่อนแอลงตามวัย หรืออาจเกิดจากอุบัติเหตุ ปัญหานี้สามารถส่งผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวและคุณภาพชีวิต

อาการเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาด

  • ปวดไหล่เวลานอนโดยเฉพาะตอนนอนตะแคงทับ
  • ปวดไหล่เวลายกแขนขึ้นหรือลงในบางท่า และมีอาการข้อติด
  • อ่อนแรงในขณะยกหรือหมุนหัวไหล่ 
  • มีเสียงเสียดสีในขณะขยับบางท่าของไหล่
  • ไหล่แข็งเกร็ง ไม่สามารถขยับเขยื้อนไหล่ได้ตามใจ

เอ็นหัวไหล่ฉีกขาดมีหลายสาเหตุ ดังนี้

  • การใช้งานไหล่ที่มากเกินไป คือ การใช้ไหล่ทำงานซ้ำ ๆ เช่น ยกของหนัก หรือเล่นกีฬาที่ต้องใช้แขนมาก เช่น เทนนิส ว่ายน้ำ แบดมินตัน
  • อาการบาดเจ็บ เช่น การล้ม การสะดุด หรือการเคลื่อนไหวที่ผิดท่าจนอาจทำให้เอ็นหัวไหล่ฉีกขาดทันที
  • ความเสื่อมตามวัย โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ เอ็นหัวไหล่อาจเสื่อมสภาพ ทำให้มีความเสี่ยงต่อการฉีกขาดเพิ่มขึ้น
  • โครงสร้างร่างกาย ความผิดปกติในโครงสร้างข้อไหล่อาจทำให้เอ็นเกิดการเสียดสีจนเสียหาย

การวินิจฉัยเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด

หากมีอาการเจ็บ หรือปวดหัวไหล่อย่างรุนแรง ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยโดยเร็วที่สุด ขั้นตอนที่แพทย์ใช้ในการประเมิน ได้แก่

  • การซักประวัติ สอบถามข้อมูลเบื้องต้น เช่น อาการเจ็บปวดเกิดขึ้นเมื่อใด กิจกรรมที่ทำก่อนมีอาการ ระยะเวลาและตำแหน่งที่ปวด รวมถึงพฤติกรรมหรือการใช้งานหัวไหล่ที่อาจเกี่ยวข้อง
  • การตรวจร่างกาย เริ่มจากการตรวจทั่วไป เช่น น้ำหนัก ส่วนสูง ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกาย จากนั้นจึงตรวจเฉพาะที่หัวไหล่ เช่น สังเกตรอยช้ำ ตรวจองศาการเคลื่อนไหว ทดสอบแรงต้านกับกล้ามเนื้อหัวไหล่ และประเมินการอักเสบหรือตึงของกล้ามเนื้อรอบสะบัก
  • การเอกซเรย์ (X-ray) ตรวจโครงสร้างของกระดูกหัวไหล่ว่ามีความผิดปกติหรือกระดูกหักหรือไม่ อย่างไรก็ตาม การเอกซเรย์ไม่สามารถแสดงภาพเส้นเอ็นได้
  • การตรวจ MRI (Magnetic Resonance Imaging) แพทย์อาจพิจารณาการทำ MRI เพื่อให้ได้ภาพรายละเอียดของโครงสร้างในบริเวณไหล่อย่างชัดเจน ซึ่งจะช่วยให้สามารถวางแผนการรักษาได้อย่างเหมาะสม 

การรักษาเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด

การรักษาเอ็นหัวไหล่ฉีกขาดจะขึ้นอยู่กับอาการและระดับความรุนแรง โดยสามารถแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบดังนี้

  • ระยะอักเสบหรือฉีกขาดบางส่วน แพทย์จะให้รับประทานยาร่วมกับการทำกายภาพบำบัด และพักการใช้งานไหล่ หากรับประทานยาและกายภาพบำบัดแล้วอาการยังไม่ดีขึ้น แพทย์จะแนะนำให้ฉีดสเตียรอยด์หรือยาต้านอักเสบ เพื่อลดการอักเสบ
  • ระยะฉีกขาดรุนแรงหรือฉีกขาดทั้งหมด แพทย์จะแนะนำให้ผ่าตัดด้วยการส่องกล้องเพื่อซ่อมแซมเส้นเอ็น ซึ่งผู้ป่วยจะมีแผลขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว สามารถกลับไปใช้งานไหล่และแขนได้ตามปกติหรือใกล้เคียงปกติเร็วขึ้น

แต่ในผู้ป่วยที่มีเส้นเอ็นขาดขนาดใหญ่ หลังเย็บซ่อมเส้นเอ็น อาจมีโอกาสฉีกขาดซ้ำได้  ปัจจุบันจึงมีวิธีการต่าง ๆ มากมายเพื่อลดโอกาสในการฉีกขาดซ้ำ การใช้ Biologic collagen patch มาช่วยเสริมความแข็งแรงในการเย็บซ่อมเส้นเอ็น สามารถกระตุ้นให้เกิดการสมานเส้นเอ็นกับกระดูกได้ดีขึ้น ถือเป็นเทคโนโลยีที่ได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์ว่า สามารถช่วยลดการฉีกขาดซ้ำหลังผ่าตัด รวมทั้งช่วยลดระยะเวลาการกายภาพหลังผ่าตัด สามารถกลับไปใช้หัวไหล่ได้เร็วขึ้นส่งผลให้ผู้ป่วยได้ผลการรักษาที่ดีขึ้น

ผ่าตัดเอ็นหัวไหล่พักฟื้นกี่วัน

หลังจากการผ่าตัดเอ็นไหล่ฉีกขาด ขั้นตอนการฟื้นฟูเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผู้ป่วยกลับมาใช้งานได้เต็มที่ โดยทั่วไปจะแบ่งการฟื้นฟูเป็น 3 ระยะดังนี้

  1. ระยะพักฟื้นเริ่มต้น 1-6 สัปดาห์แรก
    ในช่วงนี้ต้องให้ไหล่อยู่ในสลิงเพื่อป้องกันการเคลื่อนไหวที่อาจทำให้แผลฉีกขาดอีก หลีกเลี่ยงการใช้งานหนัก อาจจะขยับเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนเลือด เช่น การหมุนข้อมือ หรือการยืดกล้ามเนื้อเบื้องต้น
  2. ระยะฟื้นฟูกล้ามเนื้อและการเคลื่อนไหว 6-12 สัปดาห์
    เมื่อแผลเริ่มสมานดีแล้ว ให้เริ่มกายภาพบำบัดฝึกการเคลื่อนไหวไหล่แบบเบา ๆ และเพิ่มการยืดหยุ่นของข้อไหล่ รวมถึงการเสริมสร้างกล้ามเนื้อรอบ ๆ ไหล่เพื่อให้มั่นคงขึ้น
  3. ระยะฟื้นตัวเต็มที่ 3-6 เดือน
    เน้นการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความคล่องตัว

โดยระยะเวลาฟื้นตัวทั้งหมดจะขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการฉีกขาด ส่วนใหญ่จะใช้เวลาประมาณ 4-6 เดือนในการกลับมาใช้ชีวิตปกติ

เส้นเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด หากปล่อยไว้ โดยไม่รักษา จะเกิดอะไรขึ้น

การปล่อยเส้นเอ็นไหล่ฉีกขาดทิ้งไว้โดยไม่ทำการรักษา อาการปวดเรื้อรังจะรบกวนการใช้ชีวิต และเมื่อเวลาผ่านไป การบาดเจ็บจะส่งผลต่อโครงสร้างของข้อไหล่โดยตรง ข้อไหล่จะขาดความสมดุล ทำให้ไม่สามารถใช้งานข้อไหล่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ และอาจทำให้เกิดข้อเสื่อมตามมาได้ 

การป้องกันเอ็นหัวไหล่ฉีกขาด

เอ็นหัวไหล่ฉีกเป็นปัญหาที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย แต่สามารถป้องกันได้ด้วยการดูแลสุขภาพกล้ามเนื้อหัวไหล่และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เสี่ยง หากคุณมีอาการเจ็บปวดหรือข้อไหล่ติดแข็ง ควรรีบมาพบแพทย์ เพราะถ้าหากปล่อยไว้อาจทำให้อาการปวดเรื้อรังและเส้นเอ็นบาดเจ็บมากขึ้น กลายเป็นความทรมานที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิต

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร. 02-734-0000

Medically Reviewed by

นพ. รัฐภูมิ วัชโรภาส
นพ. รัฐภูมิ วัชโรภาส

ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ

ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ - เวชศาสตร์การกีฬาและโรคข้อไหล่

Readers’ Rating

5.0 out of 5 stars (based on 2 reviews)