5 สัญญาณเตือน มะเร็งไทรอยด์ ที่มักเริ่มโดยไม่รู้ตัว

บทความสุขภาพ
Featured Image

มะเร็งไทรอยด์ (Thyroid Cancer) เป็นโรคที่หลายคนอาจไม่รู้ตัว เพราะในระยะแรกมักไม่แสดงอาการให้เห็นชัดเจน แต่ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีการตรวจคัดกรองและการวินิจฉัยในปัจจุบัน ทำให้สามารถตรวจพบโรคได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ช่วยเพิ่มโอกาสรักษาหายและกลับมาใช้ชีวิตได้เป็นปกติ

รู้จักมะเร็งไทรอยด์ คืออะไร?

มะเร็งไทรอยด์ คือ ภาวะที่เซลล์ต่อมไทรอยด์เกิดการเปลี่ยนแปลงและแบ่งตัวผิดปกติอย่างควบคุมไม่ได้ จนกลายเป็นเนื้อร้าย ต่อมไทรอยด์มีบทบาทสำคัญในการควบคุมระบบเผาผลาญ พลังงาน อุณหภูมิ และฮอร์โมนในร่างกาย เมื่อเกิดความผิดปกติจึงส่งผลต่อสุขภาพโดยรวม

5 สัญญาณเตือนมะเร็งไทรอยด์ที่ควรสังเกต 

แม้อาการแรกเริ่มมักไม่รุนแรง แต่ควรระวังหากมีสิ่งเหล่านี้

  • มีก้อนที่คอ โตเร็ว
  • เสียงแหบเรื้อรัง
  • กลืนลำบาก หายใจติดขัด
  • เจ็บหรือบวมบริเวณคอ
  • ต่อมน้ำเหลืองที่คอโต

หากพบอาการผิดปกติ ควรรีบพบแพทย์ทันที

เทคโนโลยีตรวจคัดกรองทันสมัย พบมะเร็งไทรอยด์ได้ตั้งแต่ระยะแรก

การตรวจคัดกรองก้อนในต่อมไทรอยด์ที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในปัจจุบัน คือ การอัลตราซาวนด์ความละเอียดสูง (High-Resolution Thyroid Ultrasound) เพราะต่อมไทรอยด์เป็นอวัยวะที่อยู่ตื้น การใช้คลื่นเสียงความถี่สูงสามารถแสดงภาพก้อนได้อย่างชัดเจน ทั้ง ขนาด รูปร่าง โครงสร้างภายใน (echogenicity) รวมถึงความสัมพันธ์กับอวัยวะรอบข้างอย่างละเอียด ทำให้แพทย์ประเมินความเสี่ยงของโรคได้แม่นยำตั้งแต่เริ่มต้น

นอกจากนี้ อัลตราซาวนด์ยังเป็นเครื่องมือสำคัญในการ กำหนดตำแหน่งสำหรับเจาะชิ้นเนื้อ (Ultrasound-Guided FNA) เพื่อส่งตรวจทางพยาธิวิทยา เพิ่มความมั่นใจในการวินิจฉัยว่าก้อนดังกล่าวเป็น “เนื้องอกธรรมดา” หรือมีความเสี่ยงเป็น มะเร็งไทรอยด์

เพื่อให้ผลลัพธ์เชิงวินิจฉัยแม่นยำขึ้น แพทย์มักใช้การประเมิน หลายคุณลักษณะภาพร่วมกัน เช่น

  • ขอบก้อนไม่เรียบ
  • มีจุดแคลเซียมเกาะภายใน
  • รูปร่างสูงกว่ากว้าง
  • การสะท้อนคลื่นเสียงผิดปกติ

คุณสมบัติเหล่านี้ร่วมกันสามารถช่วยจำแนกได้ว่า ก้อนมีโอกาสเป็นมะเร็งน้อย ปานกลาง หรือสูง ซึ่งส่งผลต่อการเลือกแผนการตรวจและการรักษาต่อไป

ในกรณีที่ต้องประเมินการลุกลามของโรคมะเร็ง เช่น ไปยังต่อมน้ำเหลือง หรือโครงสร้างลึกบริเวณคอ แพทย์อาจใช้การตรวจ CT Scan หรือ MRI ร่วมด้วย เพื่อให้เห็นการแพร่กระจายอย่างครอบคลุมและแม่นยำที่สุด

ทำไมการตรวจพบเร็วถึงมีความสำคัญ?

  • เมื่อโรคยังอยู่ในระยะเริ่มต้น ยังไม่แพร่กระจายหรือยังอยู่ในต่อมไทรอยด์การรักษาจะทำได้ง่ายกว่า และผลลัพธ์มักดีกว่า
  • ลดโอกาสการลุกลาม ลดความจำเป็นในการรักษาแบบรุกล้ำหรือใช้ทรัพยากรมาก
  • เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้สามารถตรวจพบได้เร็วขึ้น และแม่นยำขึ้น จึงเป็น “โอกาสทอง” สำหรับผู้ที่เสี่ยงหรือเริ่มมีอาการสงสัย

วิธีรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ 

การรักษามะเร็งต่อมไทรอยด์ในปัจจุบันมีประสิทธิภาพสูงมาก โดยเฉพาะหากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก แนวทางหลักของการรักษามักประกอบด้วย การผ่าตัดร่วมกับการให้รังสีไอโอดีน และในบางรายอาจมีการใช้รังสีรักษาหรือยาเพิ่มเติมตามการประเมินรายบุคคล

การผ่าตัดต่อมไทรอยด์ 

การผ่าตัดเป็นวิธีหลักในการกำจัดเซลล์มะเร็งจากต่อมไทรอยด์ โดยแพทย์จะเลือกวิธีที่เหมาะสมกับระยะและลักษณะของโรค เช่น

  • Total Thyroidectomy : ผ่าตัดนำต่อมไทรอยด์ออกทั้งหมด เหมาะสำหรับระยะลุกลาม หรือพบหลายตำแหน่ง
  • Lobectomy : ผ่าตัดเฉพาะกลีบของต่อมไทรอยด์ เหมาะกับก้อนที่มีความเสี่ยงต่ำ
  • Lymph Node Dissection : ผ่าตัดต่อมน้ำเหลืองใกล้เคียง หากตรวจพบการแพร่กระจาย

ปัจจุบันแพทย์มีเทคนิคที่ช่วยลดผลข้างเคียง เช่น การผ่าตัดโดยเลี่ยงต่อมพาราไทรอยด์ไว้เพื่อป้องกันภาวะแคลเซียมต่ำ  ระวังเส้นประสาทเลี้ยงสายเสียง เพื่อลดความเสี่ยงเสียงแหบ

การผ่าตัดโดยเฉลี่ยใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง พักรักษาเป็นผู้ป่วยในเฉลี่ย 3–5 วัน และสามารถกลับบ้านได้หลังไม่มีภาวะแทรกซ้อน ต่อมไทรอยด์ที่นำออกจะถูกตรวจด้วยพยาธิแพทย์ เพื่อประเมินการกระจายของเซลล์มะเร็งอย่างละเอียด

การรักษาต่อด้วยรังสีไอโอดีน (Radioactive Iodine Therapy – RAI)

หากผลตรวจพยาธิวิทยาชี้ว่ามีการกระจายของมะเร็ง หรือมีโอกาสกลับมา แพทย์มักแนะนำให้รักษาด้วย รังสีไอโอดีน I-131 ประมาณ 4 สัปดาห์หลังผ่าตัด

วิธีนี้จะให้ผู้ป่วย “กลืนไอโอดีนรังสี” เซลล์มะเร็งไทรอยด์ที่ยังหลงเหลืออยู่จะดูดซึมไอโอดีนและถูกทำลายเฉพาะจุด ทำให้ลดโอกาสการกลับมาได้ดีมาก  ซึ่งต้องรักษาในห้องแยกผู้ป่วยรับรังสีประมาณ 2–4 วัน เพื่อความปลอดภัยต่อคนรอบข้าง จนกระทั่งระดับรังสีลดลงอยู่ในเกณฑ์ปลอดภัย

การรักษาเสริมอื่น ๆ

ในบางกรณีที่โรคไม่ตอบสนองต่อวิธีหลัก อาจมีการใช้

  • รังสีรักษาภายนอก (External Beam Radiation)
  • ยารักษามะเร็งแบบจำเพาะเจาะจง (Targeted Therapy)
  • เคมีบำบัด 

ซึ่งแพทย์จะวางแผนเป็นรายบุคคลตามชนิดของมะเร็งและการตอบสนองของร่างกาย

กลุ่มเสี่ยงที่ควรตรวจคัดกรอง

  • ผู้ที่มีก้อนที่คอ หรือมีก้อนโตขึ้นเรื่อย ๆ
  • ประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์หรือโรคทางพันธุกรรมเฉพาะ
  • เคยได้รับรังสีบริเวณคอ
  • หญิงอายุ 30–50 ปี (พบมากในผู้หญิง)
  • ภาวะไทรอยด์ทำงานผิดปกติบ่อยครั้ง

ตรวจเร็ว ปลอดภัย เพิ่มโอกาสรอดชีวิต

มะเร็งไทรอยด์ไม่ใช่โรคไกลตัว หากตรวจพบเร็ว โอกาสรักษาหายและกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติสูงมาก การตรวจคัดกรองง่าย รวดเร็ว ไม่เจ็บ และปลอดภัย

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมะเร็งไทรอยด์

 มะเร็งไทรอยด์อันตรายไหม?

ส่วนใหญ่เป็นชนิดที่ตอบสนองต่อการรักษาดีมาก หากตรวจพบเร็ว มีโอกาสหายสูง และกลับมาใช้ชีวิตได้ปกติ

มีก้อนที่คอต้องกังวลไหม?

ก้อนที่คอ ไม่ใช่ทุกก้อนจะเป็นมะเร็ง แต่หากโตเร็ว กดเจ็บ หรือมีอาการร่วม เช่น เสียงแหบ กลืนลำบาก ควรตรวจอัลตราซาวนด์ทันที

กลุ่มไหนเสี่ยงเป็นมะเร็งไทรอยด์มากที่สุด?
  • ผู้หญิงวัย 30–50 ปี
  • ผู้ที่มีประวัติเคยได้รับรังสีบริเวณคอ
  • มีคนในครอบครัวเป็นมะเร็งไทรอยด์
  • ผู้ที่ฮอร์โมนไทรอยด์ผิดปกติบ่อยครั้ง

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์มะเร็ง โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร 02-734-0000 ต่อ 2720

Medically Reviewed by

พญ. ณัฐนิช สุริยาพันธ์
พญ. ณัฐนิช สุริยาพันธ์

อายุรศาสตร์

อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา

Readers’ Rating

5.0 out of 5 stars (based on 1 review)