โรคลมชักในเด็ก สิ่งสำคัญที่พ่อแม่ควรรู้

บทความสุขภาพ
การเคลื่อนไหวผิดปกติบางอย่างในทารกอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่สับสนและกังวลใจ บทความนี้จะช่วยไขข้อข้องใจว่าอาการแบบไหนคือการสะดุ้งหรือการเคลื่อนไหวปกติ และอาการแบบไหนคือสัญญาณเตือนของอาการชักที่ต้องรีบปรึกษากุมารแพทย์

คุณพ่อคุณแม่หลายท่านที่ทราบว่าลูกเป็นโรคลมชัก มักจะมีคำถามว่าโรคลมชักในเด็กอันตรายไหม? รักษาให้หายขาดได้ไหม? และลูกจะกลับมาใช้ชีวิตปกติได้ไหม? แม้เป็นเรื่องที่ยากสำหรับพ่อแม่ แต่หากลูกได้รับการวินิจฉัยที่ถูกต้อง ทันที และได้รับการรักษาโรคลมชักในเด็กที่เหมาะสม ก็สามารถใช้ชีวิตอย่างมีความสุข และพัฒนาศักยภาพของตัวเองได้เต็มที่

โรคลมชักในเด็กคืออะไร

โรคลมชักในเด็ก (Pediatric Epilepsy) คือภาวะที่สมองทำงานผิดปกติ ส่งผลให้เด็กมีอาการชัก ลักษณะของอาการชักในเด็กมีได้หลากหลาย ตั้งแต่การเหม่อลอยชั่วขณะ ไปจนถึงการชักเกร็งทั้งตัว

เด็กบางคนอาจหายจากโรคนี้ได้เมื่อเติบโตขึ้น แต่บางรายอาจต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องในระยะยาว ซึ่งขึ้นอยู่กับชนิดของลมชักและสาเหตุของโรค

ประเภทของโรคลมชักในเด็กที่พบบ่อย

โรคลมชักในเด็กมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน เช่น

  • ลมชักแบบเหม่อลอย (Absence Seizures) เด็กจะหยุดนิ่ง ไม่ตอบสนองในช่วงสั้น ๆ คล้ายเหม่อลอย มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นเพียง อาการ “ใจลอย”
  • ลมชักชนิดโรแลนดิก (Benign Rolandic Epilepsy) มักเกิดขณะนอนหลับ หรือเพิ่งตื่นนอน มีอาการกระตุกที่ใบหน้า หรือพูดไม่ชัดชั่วคราว
  • ลมชักกล้ามเนื้อกระตุกในวัยรุ่น (Juvenile Myoclonic Epilepsy) พบในวัยรุ่น มักมีอาการกล้ามเนื้อกระตุก โดยเฉพาะแขนและไหล่ช่วงเช้าหลังตื่นนอน
  • กลุ่มอาการเวสต์ หรือ (Infantile Spasms) พบในทารก มีการชักแบบกระตุกหลายครั้งต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงใกล้ตื่นนอน
  • กลุ่มอาการเลนนอกซ์-แกสโต (Lennox-Gastaut Syndrome) โรคที่มีความรุนแรง มีการชักหลายรูปแบบ เด็กอาจหมดสติ ล้มลงทันที หรือดูสับสน

อาการลมชักในเด็ก

อาการชักอาจเกิดขึ้นแบบทันที และกินเวลาเพียงไม่กี่วินาทีจนถึงไม่กี่นาที อาการที่พบบ่อย เช่น

  • หมดสติ หรือไม่ตอบสนอง
  • กล้ามเนื้อเกร็งหรือกระตุก
  • เคี้ยวปาก หรือขยับมือซ้ำๆ
  • เหม่อลอย จ้องนิ่ง
  • ล้มลงอย่างกะทันหัน
  • หายใจเร็ว ใจสั่น
  • รับรู้ผิดปกติ เช่น ได้ยินเสียงหรือเห็นภาพแปลก ๆ

หลังจากชัก เด็กมักมีอาการเหนื่อยล้า ง่วงนอน หรือสับสนอยู่พักหนึ่ง บางคนอาจพูดไม่ชัดหรือจำเหตุการณ์ก่อนหน้าไม่ได้ชั่วคราว

สาเหตุโรคลมชักในเด็ก

ลมชักอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น

  • กรรมพันธุ์ โรคบางชนิดถ่ายทอดทางพันธุกรรม
  • พัฒนาการของสมองผิดปกติ ตั้งแต่กำเนิด หรือจากการบาดเจ็บในภายหลัง
  • ภาวะแทรกซ้อนขณะคลอด เช่น ขาดออกซิเจน หรือภาวะดีซ่านรุนแรง
  • การติดเชื้อ เช่น เยื่อหุ้มสมองอักเสบ
  • ความผิดปกติของระบบเผาผลาญ พบได้น้อย บางชนิดมีการรักษาจำเพาะ

การวินิจฉัยโรคลมชักในเด็ก

การวินิจฉัยที่แม่นยำเป็นก้าวแรกของการรักษาที่มีประสิทธิภาพ โดยแพทย์จะสอบถามประวัติอาการ ตรวจร่างกาย และอาจพิจารณาตรวจเพิ่มเติม ได้แก่

  • การตรวจเลือด
  • EEG (ตรวจคลื่นไฟฟ้าสมอง) เพื่อดูคลื่นชัก และการทำงานของสมอง
  • MRI หรือ CT Scan เพื่อตรวจโครงสร้างสมอง
  • การตรวจพันธุกรรม หรือการตรวจเมตาบอลิซึมในเด็กเล็ก

แนวทางการรักษาโรคลมชักในเด็ก

ที่โรงพยาบาลเวชธานี ให้ความสำความสำคัญกับการดูแลแบบองค์รวม ไม่ใช่ไม่ใช่แค่รักษาอาการ แต่เข้าใจบริบทของเด็กแต่ละคนอย่างรอบด้าน โดยเป้าหมายหลักของการรักษาคือ ควบคุมอาการชักให้ดีที่สุด พร้อมกับช่วยให้เด็กมีพัฒนาการและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น สามารถรักษาได้ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

1.ยากันชักสำหรับเด็ก

การรักษาลมชักในเด็กด้วยยามักเป็นทางเลือกแรก โดยแพทย์จะเลือกใช้ยาที่เหมาะกับประเภทของลมชักที่เด็กเป็น อายุ และสภาวะสุขภาพของเด็ก

2.อาหาร Ketogenicสำหรับโรคลมชัก

การรับประทานอาหารที่มีไขมันสูงและคาร์โบไฮเดรตต่ำ ภายใต้การดูแลของนักโภชนาการและแพทย์ ช่วยลดความถี่ของอาการชักในบางราย

3.การผ่าตัด

หากการรักษาด้วยยาไม่ได้ผล แพทย์อาจพิจารณาการผ่าตัดเพื่อรักษาต้นเหตุของอาการลมชักในเด็ก

4.การกระตุ้นเส้นประสาทเวกัส (VNS)

เป็นอุปกรณ์ฝังใต้ผิวหนังที่ช่วยส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังเส้นประสาท เพื่อควบคุมการทำงานของสมอง ลดความถี่ในการชักได้

การดูแลแบบองค์รวมคือหัวใจสำคัญของการรักษาโรคลมชักในเด็ก

ที่โรงพยาบาลเวชธานีอินเตอร์เนชั่นแนล เราทำงานเป็นทีมสหวิชาชีพ ทั้งกุมารแพทย์ นักพัฒนาการ นักกายภาพบำบัด นักจิตวิทยา และนักโภชนาการ เพื่อให้เด็กได้รับการดูแลอย่างครอบคลุมที่สุด

เพราะเราเข้าใจว่า… ลมชักในเด็กไม่ใช่แค่เรื่องของโรค แต่เป็นเรื่องของชีวิตและความหวังของทั้งครอบครัว

ให้เราก้าวไปพร้อมกัน

หากลูกของคุณมีอาการชัก หรือคุณสงสัยว่าอาจเป็นโรคลมชักในเด็ก อย่ารอช้า การวินิจฉัยและดูแลตั้งแต่เนิ่น ๆ คือกุญแจสำคัญที่จะเปลี่ยนอนาคตของลูกให้ดีขึ้นได้ เพราะเด็กทุกคน… สมควรมีโอกาสเติบโตโดยไร้อาการชัก และมีชีวิตที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์กุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000 ต่อ 3310, 3312, 3319

Medically Reviewed by

นพ. ศุภชัย เลาหพงศ์สมบูรณ์
นพ. ศุภชัย เลาหพงศ์สมบูรณ์

กุมารเวชศาสตร์

กุมารเวชศาสตร์ประสาทวิทยา

Readers’ Rating

0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)