โรคสมองขาดเลือด ภาวะฉุกเฉินที่ต้องรีบรักษาก่อนเสี่ยงอัมพาต
โรคสมองขาดเลือดเกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดสมอง เสี่ยงอัมพาตถาวร หากรักษาทันภายใน 24ชม.ด้วยเทคโนโลยี Biplane DSA ช่วยเพิ่มโอกาสฟื้นตัว

A: หลายคนมองว่าการนอนกรนเป็นแค่ปัญหาเสียงรบกวน แต่ในความจริงอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะผิดปกติที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดสมอง
A: การนอนกรนสามารถเกิดได้กับทุกคนโดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น ความเหนื่อยล้าสะสม การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน น้ำหนักเกิน ภาวะคัดจมูกจากภูมิแพ้ ภาวะเหล่านี้อาจทำให้การหายใจติดขัด และเกิดเสียงกรนตามมา
A: จะมีอาการนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ สะดุ้งตื่นกลางดึกเหมือนหายใจไม่ออก ตื่นมาแล้วรู้สึกปากแห้ง เจ็บคอ ปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ ง่วงนอนผิดปกติในเวลากลางวัน สมาธิลดลงและประสิทธิภาพการทำงานลดลง
A: เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะในทางเดินหายใจ เช่น ลิ้น ผนังคอหอย หรือช่องคอ ทำให้ทางเดินหายใจแคบหรืออุดกั้น ส่งผลให้การหายใจขณะหลับสะดุดหรือหยุดชั่วขณะ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
A: ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยตรวจวินิจฉัยการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อแยกว่าเป็นการนอนกรนประเภทใด และสามารถบอกความรุนแรงของโรคได้ว่า มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากหรือไม่และตรวจการหายใจที่สัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจและสมองขณะหลับ โดยมีรายละเอียดการตรวจดังนี้
A: Sleep Test จะช่วยบอกคุณภาพการนอน และวิเคราะห์ความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากพบความผิดปกติ แพทย์จะสามารถแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ทันที
A: แนวทางรักษาแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก:
A: หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง อัมพาต หรือแม้แต่เสียชีวิตในกรณีรุนแรง การตรวจและรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน และฟื้นฟูคุณภาพการนอนให้กลับมาเป็นปกติได้
ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000