ปอดอักเสบจากไวรัส RSV ในผู้สูงอายุ อันตรายถึงชีวิต ป้องกันได้ด้วยวัคซีน
ไวรัส RSV ไม่ได้เกิดในเด็กเท่านั้น ผู้สูงอายุก็เสี่ยงติดเชื้อและเป็นโรคปอดอักเสบรุนแรงถึงชีวิตได้ เรียนรู้วิธีสังเกตอาการและการป้องกันด้วยวัคซีน RSV
แม้ชื่อจะคล้าย “วัณโรค” แต่ วัณโรคเทียม (NTM – Non-Tuberculous Mycobacteria) คือการติดเชื้อจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ที่ไม่ใช่เชื้อวัณโรค แต่มีอาการใกล้เคียงกันมาก เช่น ไอเรื้อรัง เหนื่อยง่าย มีไข้ต่ำ น้ำหนักลด หรือแม้แต่พบจุดผิดปกติในภาพเอกซเรย์ปอด หรืออาจมีรอยโรคที่บริเวณผิวหนัง
NTM คืออะไร? อยู่ใกล้ตัวกว่าที่คิด
เชื้อวัณโรคเทียม (NTM) เป็นแบคทีเรียที่พบใน สิ่งแวดล้อมทั่วไป ทั้งในดิน น้ำ อากาศ และฝุ่น มีมากกว่า 140 สายพันธุ์ โดยคนอาจติดเชื้อได้จากหลายช่องทาง เช่น
- การสูดดมหรือหายใจเอาเชื้อเข้าไป
- การสัมผัสแผลที่ผิวหนัง
- การปลูกต้นไม้
- การอาบน้ำหรือดื่มน้ำที่มีเชื้อปะปน
เนื่องจากผู้ที่ติดเชื้อวัณโรคเทียมอาจใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการหลังจากได้รับเชื้อ ดังนั้นผู้ติดเชื้ออาจไม่ทราบว่าตนเองได้รับเชื้อตั้งแต่เมื่อไหร่ และจากที่ใด แต่ในคนปกติ เมื่อหายใจเอาเชื้อวัณโรคเทียมเข้าไป จะไม่ก่อให้เกิดโรค แต่สำหรับผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำหรือผู้ที่มีโรคปอดอยู่แล้วเท่านั้น จึงจะติดเชื้อและก่อให้เกิดโรคได้ เช่น ผู้ที่มีความบกพร่องของระบบภูมิคุ้มกัน ผู้ป่วยเรื้อรัง ผู้ที่ติดเชื้อ HIV ผู้สูงอายุ ผู้ที่เคยป่วยเป็นวัณโรค โดยการติดเชื้อนี้จะมีผลต่อการเกิดโรคที่บริเวณปอด ต่อมน้ำเหลือง หรือส่วนต่างๆ ของร่างกาย รวมทั้งที่ผิวหนังด้วย
การวินิจฉัยวัณโรคเทียมมีดังนี้:
- เอกซเรย์หรือ CT Scan ปอด
- การเพาะเชื้อจากเสมหะ
- การตรวจ PCR เพื่อตรวจเชื้อจากเสมหะ หรือที่ผิวหนัง
การรักษาวัณโรคเทียม ต้องอาศัยความแม่นยำในการเลือกยา
โดยแพทย์จะเริ่มจากการเพาะเชื้อเพื่อระบุว่าเป็นเชื้อวัณโรคเทียมชนิดใด ซึ่งจะช่วยเลือกยาปฏิชีวนะให้ตรงกับเชื้อที่พบ โดยทั่วไปการรักษามักใช้ ยาปฏิชีวนะร่วมกัน 2–3 ชนิด และในบางรายอาจต้องใช้ร่วมกับ ยารักษาวัณโรค ด้วย โดยระยะเวลาในการรักษาขึ้นอยู่กับชนิดของเชื้อและความรุนแรงของอาการ
ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร 02-734-0000
Medically Reviewed by
Readers’ Rating
0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)
