ป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วยวัคซีนพ่นจมูก ทางเลือกที่ไม่เจ็บตัว
ป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วยวัคซีนพ่นจมูก (LAIV) เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ 2–49 ปี ไม่ต้องกลัวเข็ม กระตุ้นภูมิคุ้มกันตรงจุด ลดการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคได้จริง

หนึ่งในโรคติดเชื้อที่ทำให้พ่อแม่ผู้ปกครองเป็นกังวลมากที่สุด คงหนีไม่พ้นโรคติดเชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) ซึ่งมักระบาดในกลุ่มเด็กเล็กอายุต่ำกว่า 3 ปี ไวรัสชนิดนี้ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจทั้งส่วนบนและส่วนล่าง
แพทย์หญิงมณินทร วรรณรัตน์ กุมารแพทย์โรคระบบทางเดินหายใจ โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า เชื้อไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus) เป็นไวรัสที่ทำให้เกิดโรคในระบบทางเดินหายใจ ทั้งส่วนบนและส่วนล่าง สามารถติดเชื้อได้ทั้งในเด็กและผู้ใหญ่ แต่ส่วนมากมักเกิดในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 3 ปี เชื้อไวรัสนี้มีความทนทานต่อสภาพแวดล้อมภายนอกร่างกายได้นานหลายชั่วโมง และอยู่ที่มือของเราได้นานประมาณ 30 นาที
การติดเชื้อไวรัส RSV เกิดจากการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่ติดเชื้อผ่านทางการไอ จาม ไวรัสเข้าสู่ร่างกายผ่านทางตา จมูก ปาก หรือจากการจับมือ ในประเทศไทยมักพบเชื้อไวรัส RSV บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว
การติดเชื้อ RSV ส่งผลให้มีอาการคล้ายไข้หวัดธรรมดา เช่น ไข้ ไอ จาม คัดจมูก น้ำมูกไหล แต่เมื่ออาการลุกลาม อาจทำให้เกิดหลอดลมใหญ่อักเสบ หลอดลมฝอยอักเสบ หรือปอดอักเสบ โดยจะมีอาการไข้สูง ไอแรง หอบเหนื่อย หายใจมีเสียงหวีด หรือเสียงครืดคราดในลำคอ และมีเสมหะมากกว่าไข้หวัดธรรมดา เด็กเล็กไม่สามารถเอาน้ำมูกหรือเสมหะออกเองได้ ทำให้หายใจลำบาก
ปัจจุบันสามารถป้องกันการติดเชื้อและลดความรุนแรง ให้กับเด็ก ๆ ได้ด้วยการฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV (Nirsevimab) ซึ่งเป็นการฉีดสารภูมิคุ้มกัน (Antibody) ต่อเชื้อไวรัส RSV ให้กับร่างกายเพื่อนำไปใช้ต้านทานเชื้อไวรัส RSV ได้ทันที แนะนำให้ฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV โดยแบ่งตามช่วงอายุดังนี้
ในกลุ่มนี้จะได้รับการฉีดวัคซีนสำเร็จรูป RSV จำนวน 1 เข็ม ปริมาณขึ้นอยู่กับน้ำหนักและอายุของเด็ก โดยแนะนำให้ฉีดในระยะเข้าฤดูกาลระบาดของ RSV คือช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปี สำหรับทารกที่เกิดในช่วงฤดูกาลระบาดสามารถฉีดภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV หลังคลอดได้ทันที
ในกลุ่มนี้จะได้รับการฉีดวัคซีนสำเร็จรูป RSV จำนวน 2 เข็ม ปริมาณขึ้นอยู่กับน้ำหนักและอายุของเด็ก โดยแนะนำให้ฉีดในระยะเข้าฤดูกาลระบาดของ RSV คือช่วงเดือนมิถุนายนถึงตุลาคมของทุกปีเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV นับว่ามีความปลอดภัย ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อไวรัส RSV ได้ถึง 79.5%, ลดความเสี่ยงจากการรักษาตัวในโรงพยาบาลของการติดเชื้อทางเดินหายใจส่วนล่างที่เกิดจากเชื้อไวรัส RSV ได้ถึง 83.2%, ลดความรุนแรงและลดโอกาสจากการรักษาตัวในไอซียูได้ 75.3% นอกจากนี้ภูมิคุ้มกันสำเร็จรูปสามารถป้องกันการติดเชื้อไว้รัส RSV ได้ยาวนานถึง 5 เดือน ซึ่งครอบคลุมระยะเวลาในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัส RSV
นอกจากภูมิคุ้มกันสำเร็จรูป RSV แล้ว สิ่งสำคัญคือการที่พ่อแม่ผู้ปกครองพาลูกน้อยมาฉีดวัคซีนที่จำเป็นตามอายุของเด็ก โดยแบ่งอย่างง่าย ๆ ได้เป็น 2 ประเภท คือ
วัคซีนพื้นฐาน คือ วัคซีนที่อยู่ในแผนสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคของประเทศ แนะนำให้ได้ใช้ในเด็กไทยทุกคน ได้แก่
วัคซีนทางเลือก เป็นวัคซีนที่มีประโยชน์แต่ยังมีราคาสูงจึงไม่สามารถจัดหาให้แก่เด็ก ๆ ทุกคนได้ ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งก็ก่อให้เกิดโรครุนแรง ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเอง หากต้องการให้ลูกน้อยได้รับวัคซีน ได้แก่
หลังจากลูกน้อยได้รับวัคซีนทุกครั้งควรเฝ้าสังเกตอาการที่โรงพยาบาลอย่างน้อย 30 นาที เนื่องจากปฏิกิริยาการแพ้รุนแรง (Anaphylaxis) มักเกิดขึ้นภายใน 30 นาทีหลังได้รับวัคซีน ฝีจากวัคซีนบีซีจีที่ฉีดเมื่อแรกเกิดลูกน้อยอาจเป็นฝีใต้ผิวหนังขนาดเล็กอยู่ได้นาน 3-4 สัปดาห์ ไม่ต้องใส่ยาหรือปิดแผล ให้เช็ดแผลด้วยสำลีชุบน้ำต้มสุก หากมีต่อมน้ำเหลืองใกล้ตำแหน่งที่ฉีดวัคซีนบีซีจีมีขนาดใหญ่ควรไปพบแพทย์ อาการปวด บวมบริเวณที่ฉีดวัคซีนหรือมีอาการไข้ ร้องกวน อาเจียน ท้องเสียเป็นอาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง ดูแลโดยให้ยาพาราเซตามอล และรักษาตามอาการ แต่หากมีอาการรุนแรง เช่น ชักสะลึมสะลือ โคม่า มีผื่นลมพิษรุนแรงหายใจลำบาก ตัวเขียว ชีพจรเบาเร็วควรไปพบแพทย์ทันที
อย่างไรก็ตาม เมื่อมาถึงวันนัดฉีดวัคซีน แต่ลูกน้อยกลับมีไข้สูง ควรเลื่อนการฉีดวัคซีนออกไปก่อน แต่หากป่วยเพียงเล็กน้อย เช่น เป็นหวัดโดยไม่มีไข้ หรือท้องเสียเล็กน้อย ก็สามารถรับวัคซีนได้
หากแพ้วัคซีนหรือส่วนประกอบ ควรหลีกเลี่ยงการรับวัคซีนนั้นๆ หากลูกน้อยแพ้ไข่รุนแรงไม่ควรรับวัคซีนที่ผลิตจากไข่ เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่แต่สามารถรับวัคซีนหัดได้ เพราะในวัคซีนมีไข่ปนอยู่น้อยมาก ควรพาลูกน้อยมารับวัคซีนตามวันนัดและควรนำสมุดบันทึกวัคซีนมาพบแพทย์ทุกครั้งที่รับวัคซีน พร้อมเก็บสมุดบันทึกวัคซีนไว้จนลูกน้อยเติบโตเป็นผู้ใหญ่ เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับประเมินภูมิคุ้มกันโรค
ศูนย์กุมารเวชกรรม (Super Kids Center) โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000