บทความสุขภาพ

ผื่นขึ้นตามตัว อย่ามองข้าม อาจเสี่ยงเป็นโรคฝีดาษลิง

Share:

โรคฝีดาษวานรหรือฝีดาษลิงเป็นโรคที่ติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากไวรัสชื่อ Poxviridae กำลังระบาดในประเทศในแอฟริกา และในประเทศไทยเองก็พบผู้ป่วยยืนยันแล้วอย่างน้อย 4 ราย ตามข้อมูลเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2565

สัตว์ที่เป็นต้นเหตุของโรค เชื่อว่าเกิดจากสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็ก โดยเฉพาะสัตว์กัดแทะ เช่นลิง กระรอก กระต่าย และหนู ซึ่งการติดต่อเกิดได้จากทั้งสัตว์สู่คน โดยสัมผัสกับสารคัดหลั่งหรือรับประทานสัตว์ที่ปรุงไม่สุก และจากคนสู่คน ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งทางเดินหายใจ หรือการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยผ่านการสัมผัสบริเวณผื่นและแผลของผู้ป่วย

ระยะฟักตัวของโรคอยู่ที่ 7-21 วัน ดังนั้น หากมีประวัติเสี่ยงในการสัมผัสโรค และมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่งดังต่อไปนี้ ควรแยกตัวเองจากบุคคลอื่นและมาพบแพทย์เพื่อตรวจรักษา

  1. มีไข้ 38 องศาเซลเซียส หรือมีไข้ร่วมกับอาการ เจ็บคอ ปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ ต่อมน้ำเหลืองบวมโต
  2. มีผื่นและตุ่มตามผิวหนัง พบกระจายตามใบหน้า ลำตัว แขน ขา อวัยวะเพศ รอบทวารหนัก ลักษณะของผื่นจะพบเป็นระยะเดียวกันหมด คือ อาจจะเป็น ตุ่มแดงนูน ตุ่มน้ำใส ตุ่มหนอง หรือตุ่มตกสะเก็ด

การตรวจยืนยัน ทำได้โดยการตรวจสารพันธุกรรม RT-PCR จากตุ่มแผล ลำคอ หรือจากเลือด ซึ่งการรักษาโรคฝีดาษลิงขึ้นอยู่กับความรุนแรงของอาการ แต่ส่วนใหญ่จะหายเองได้ จึงให้การรักษาตามอาการ เช่น ยาลดไข้ ให้สารน้ำ ลดการไม่สบายจากแผลและตุ่มน้ำ ป้องกันการติดเชื้อบริเวณแผล ขณะที่ในผู้ป่วยบางรายที่มีอาการรุนแรง สามารถให้การรักษาด้วยยาต้านไวรัส 

นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนที่ป้องกันการติดเชื้อ small pox และ monkey pox มีการศึกษาว่าหากได้รับวัคซีนภายใน 4 วันหลังสัมผัสโรค อาจป้องกันการติดเชื้อได้ และหากให้หลังจาก 4 วันแต่ไม่เกิน 14 วัน อาจช่วยลดความรุนแรงจากโรคได้

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์ผิวหนังและความงาม
โทร 02-734-0000 ต่อ 4200, 4204

  • Readers Rating
  • Rated 5 stars
    5 / 5 (3 )
  • Your Rating