“PM2.5 ทำพิษ! อากาศที่คุณหายใจทุกวัน อาจกำลังทำไซนัสอักเสบแบบเงียบๆ”
PM2.5 ละอองจิ๋วที่กระตุ้นอาการคัดจมูกเรื้อรัง และเสี่ยงไซนัสอักเสบ ดูวิธีป้องกันและแนวทางรักษา
Over The Counter Drugs หรือ OTC Drugs คือ ยาจำหน่ายหน้าเคาน์เตอร์ สามารถซื้อขายได้จากร้านค้า หรือร้านขายยาทั่วไป โดยไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยาของแพทย์ เช่น ยาแก้ปวดท้อง พาราเซตามอล และคลอร์เฟนิรามีน เป็นต้น ยาดังกล่าวช่วยบรรเทาอาการเจ็บป่วยได้เพียงเบื้องต้นเท่านั้น แต่หากอาการของโรคไม่สามารถบรรเทาได้ด้วยยากลุ่มดังกล่าวแล้ว สิ่งสำคัญคือตัวผู้ป่วยเองควรต้องไปพบแพทย์ ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง หรือหากจำเป็นต้องซื้อยารับประทานเอง ควรไปที่ร้านยาที่มีเภสัชกรเป็นผู้จ่ายยา
ปัจจุบันพบว่า ผู้ป่วยหรือญาติผู้ป่วยจำนวนมาก โดยเฉพาะคนกรุง จำนวน 72% นิยมซื้อยารับประทานเองในยามเจ็บป่วยเล็ก ๆ น้อย ๆ มากกว่าการไปพบแพทย์ และบางกรณีมีการระบุชื่อยาที่ต้องการด้วยตนเอง อาจเพราะเคยได้รับยาตัวดังกล่าวมาจากโรงพยาบาล รับประทานแล้วรู้สึกดีขึ้น เมื่อหมดจึงซื้อรับประทานต่อเอง อีกกลุ่มหนึ่งคือได้รับคำแนะนำจากบุคคลอื่น ว่ายาตัวนี้ดีรับประทานแล้วหาย โดยผู้แนะนำมักไม่ใช่แพทย์หรือบุคลากรทางการแพทย์ ซึ่งบางครั้งการซื้อยาจากร้านที่ไม่มีเภสัชกรประจำการ อาจได้รับยาเม็ดหลากสี ให้รับประทานพร้อม ๆ กัน หรือที่เรารู้จักกันดีในชื่อ “ยาชุด” ซึ่งอาจมียาที่ไม่จำเป็นในการรักษา เป็นยาที่เราเคยแพ้ หรือมีข้อห้ามในการใช้ยา โดยเฉพาะผู้ป่วยกลุ่มพิเศษ เช่น มีโรคประจำตัวเป็นโรคไต ความดัน เบาหวาน ให้นมบุตร หรือตั้งครรภ์ เป็นต้น หากได้รับยาดังกล่าว อาจส่งผลต่อตนเองหรือทารกในครรภ์ได้ ปัญหาสำคัญอีกประการจากการซื้อยารับประทานเอง คือ การดื้อยาของเชื้อโรคบางชนิด ที่ส่งผลให้แพทย์ต้องสั่งยาที่แรงขึ้น หรือเชื้อโรคบางชนิดยาต้านจุลชีพเอาไม่อยู่
องค์การเภสัชกรรม เตือนผู้ที่นิยมซื้อยาปฏิชีวนะรับประทานเอง และรับประทานบ่อยเกินความจำเป็น อาจเสี่ยงต่อการดื้อยาสูงและแพ้ยาจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ อีกทั้งยังเป็นการเพิ่มยาปฏิชีวนะเข้าสู่ร่างกายโดยเปล่าประโยชน์ โรคที่เป็นอยู่ก็ไม่หาย โดยองค์การเภสัชกรรมแนะนำว่า ต้องกินยาอย่างถูกวิธี ต่อเนื่องจนครบ ซึ้อยาจากร้านที่มีเภสัชกรประจำร้านดูแล สามารถให้คำแนะนำการใช้ยา และที่สำคัญที่สุดคือการมาพบแพทย์ในสถานพยาบาล เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม
ทั้งนี้ การใช้ยาปฏิชีวนะ ควรได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรืออย่างน้อยควรปรึกษาเภสัชกรก่อนเสมอ เพราะนอกจากอันตรายจากการใช้ยาปฏิชีวนะโดยไม่จำเป็นแล้ว ยังมีปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเลือกใช้ยาปฏิชีวนะอีกหลายประการ เช่น การมีโรคประจำตัว ไม่ว่าจะเป็นโรคตับ หรือโรคไต จำเป็นต้องเลี่ยงการใช้ยาบางประเภท หรืออาจต้องปรับขนาดยาให้เหมาะสมตามอายุของผู้ป่วย โดยเฉพาะผู้ป่วยเด็ก ต้องคำนวณปริมาณยาที่เหมาะสม นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายอาจมีประวัติแพ้ยาบางชนิด การแจ้งแพทย์และเภสัชกรให้ทราบว่าตนเองแพ้ยาชนิดใด จะปลอดภัยกับตัวผู้ป่วยอย่างสุดสูง