มะเร็งเต้านมไม่ใช่จุดจบ หากตรวจพบเร็วรักษาหายได้

บทความสุขภาพ
A woman performing breast self-exam with illustration of mammogram screening and breast anatomy highlighting a cancerous lump.

ก้อนผิดปกติที่เต้านม หัวนมบุ๋มหรือมีน้ำไหลออก รวมถึงผิวหนังเต้านมที่มีลักษณะผิดปกติ เช่น บุ๋มหรือคล้ายเปลือกส้ม ล้วนเป็นอาการสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม เพราะอาจเป็นสัญญาณของโรคมะเร็งเต้านม

มะเร็งเต้านมคืออะไร และทำไมผู้หญิงควรใส่ใจ

มะเร็งเต้านม (Breast Cancer) เป็นโรคมะเร็งที่ผู้หญิงทั่วโลกเผชิญมากที่สุด และยังเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้หญิง แต่หากตรวจพบตั้งแต่ระยะแรก โอกาสในการรักษาหายขาดจะสูงมาก โดยงานวิจัยพบว่าผู้ป่วยที่ตรวจพบใน ระยะที่ 0–1 มีโอกาสรอดชีวิตมากกว่า 90%

ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งเต้านม

สามารถแบ่งเป็นปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้และปัจจัยที่สามารถควบคุมได้

ปัจจัยที่ไม่สามารถควบคุมได้

  • อายุที่มากขึ้น ความเสี่ยงสูงขึ้นตามวัย
  • ประวัติครอบครัว โดยเฉพาะญาติสายตรงที่เคยเป็นมะเร็งเต้านมหรือรังไข่
  • พันธุกรรม เช่น ยีน BRCA1 และ BRCA2
  • มีประจำเดือนเร็วและหมดประจำเดือนช้า
  • เคยได้รับการฉายแสงบริเวณหน้าอกมาก่อน
  • ภาวะเนื้อเต้านมหนาแน่น (Dense Breast) ตรวจพบได้จากแมมโมแกรม

ปัจจัยที่สามารถควบคุมได้

  • น้ำหนักเกินหรือภาวะอ้วน
  • การดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ
  • การใช้ฮอร์โมนต่อเนื่องเป็นเวลานาน
  • การขาดการออกกำลังกาย

ความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม

ผู้หญิงทุกคนที่มีอายุ 40 ปีขึ้นไป ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วย แมมโมแกรม (Mammogram) ควบคู่กับ อัลตราซาวนด์เต้านม (Breast Ultrasound) โดยเฉพาะผู้ที่มีประวัติครอบครัวหรือพันธุกรรมเสี่ยงสูง

อาการที่ควรรีบตรวจโดยแพทย์

  • คลำได้ก้อนที่เต้านม
  • มีน้ำไหลออกจากหัวนม
  • หัวนมบุ๋มหรือผิวหนังคล้ายเปลือกส้ม
  • เคยตรวจพบชิ้นเนื้อผิดปกติมาก่อน

เทคโนโลยีการตรวจเต้านมที่โรงพยาบาลเวชธานี

แพทย์จะพิจารณาและแนะนำวิธีตรวจที่เหมาะสมกับผู้ป่วยแต่ละราย โดยอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัย เช่น แมมโมแกรม 3 มิติ และอัลตราซาวนด์เต้านม

แมมโมแกรม 3 มิติ (3D Mammogram)

  • ใช้ปริมาณรังสีต่ำ ปลอดภัย
  • ถ่ายภาพได้ละเอียด ใช้เวลาเพียง 3.7 วินาทีต่อท่า
  • ช่วยแยกก้อนเนื้อออกจากเนื้อเต้านมที่ทับซ้อนกัน
  • ตรวจพบก้อนเนื้อหรือหินปูนผิดปกติได้แม่นยำยิ่งขึ้น
  • เหมาะสำหรับผู้หญิงที่มีเนื้อเต้านมหนาแน่น

อัลตราซาวนด์เต้านม

  • ช่วยแยกก้อนเนื้อกับถุงน้ำ
  • ประเมินขนาด ขอบเขต และลักษณะก้อน
  • ใช้ประกอบการเจาะชิ้นเนื้อ (Biopsy) หากพบความผิดปกติ

การตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม เพิ่มโอกาสรอดชีวิต

แม้การตรวจแมมโมแกรมและอัลตราซาวนด์จะไม่ใช่วิธีป้องกันมะเร็งเต้านม แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยตรวจพบความผิดปกติในระยะเริ่มแรก ก่อนที่ผู้ป่วยจะมีอาการ ทำให้สามารถรักษาได้ทันท่วงที และเพิ่มอัตราการรอดชีวิตอย่างมีนัยสำคัญ

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมะเร็งเต้านม (FAQ)

Q:  มะเร็งเต้านมหายขาดได้หรือไม่?

A: หากตรวจพบในระยะแรก สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่หากตรวจพบในระยะลุกลาม การรักษายังช่วยควบคุมโรคและยืดอายุผู้ป่วยได้

Q: ผู้หญิงควรเริ่มตรวจคัดกรองเมื่ออายุเท่าไหร่?

A: ควรเริ่มตรวจตั้งแต่อายุ 40 ปีขึ้นไปปีละครั้ง และสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง ควรเข้ารับการตรวจเร็วกว่าปกติ

Q: การทำแมมโมแกรมปลอดภัยหรือไม่?

A: ปลอดภัย เพราะใช้ปริมาณรังสีต่ำมาก และปัจจุบันมีเทคโนโลยีแมมโมแกรม 3 มิติที่ให้ผลแม่นยำยิ่งขึ้น

Q: มีวิธีป้องกันมะเร็งเต้านมหรือไม่?

A: ไม่สามารถป้องกันได้ 100% แต่สามารถลดความเสี่ยงด้วยการควบคุมน้ำหนัก ออกกำลังกาย หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์ และตรวจคัดกรองเป็นประจำ

Q: ผู้ชายสามารถเป็นมะเร็งเต้านมได้หรือไม่?

A: สามารถเป็นได้ แม้พบได้น้อย แต่หากผู้ชายคลำเจอก้อนผิดปกติที่เต้านม ควรรีบพบแพทย์ทันที

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์เต้านม โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร 02-734-0000

Medically Reviewed by

พญ. วีรวรรณ ฉัตรตรัสตรัย
พญ. วีรวรรณ ฉัตรตรัสตรัย

รังสีวินิจฉัย

รังสีวินิจฉัย - ภาพรังสีวินิจฉัยชั้นสูงและรังสีร่วมรักษาของเต้านม

Readers’ Rating

5.0 out of 5 stars (based on 1 review)