บทความสุขภาพ

สวยแต่เสี่ยง! แพทย์แนะสาวชอบใส่ ‘รองเท้าส้นสูง’ ระวัง ‘นิ้วหัวแม่เท้าเก’

Share:

ในชีวิตประจำวันของหนุ่มสาวออฟฟิศทุกวันนี้ จำเป็นต้องใส่รองเท้าหนังในการทำงานเป็นระยะเวลานาน 6 – 8 ชั่วโมง ซึ่งในบางรายเมื่อกลับถึงบ้านอาจจะรู้สึกปวดเท้าบริเวณโคนนิ้วโป้ง
เห็นนิ้วเบี้ยวผิดรูปได้ ถ้ามีอาการเช่นนี้อาจมีอาการนิ้วหัวแม่เท้าเก สำหรับอาการนิ้วหัวแม่เท้าเก เกิดการเอียงตัวผิดปกติ นิ้วโป้งเอียงเข้าหานิ้วชี้ ปลายเท้าบีบเข้าหากันและโคนนิ้วหัวแม่เท้านูนออกมา เกิดการเสียดสีจนปวดบวม ยิ่งบวมก็ยิ่งเสียดสีมากจนบางทีปวดเท้าตลอดเวลาได้ สำหรับสาเหตุของอาการนี้ มีทั้งที่เกิดจากตัวเราเองและสิ่งที่มาจากภายนอกอย่างเช่น รองเท้า เป็นต้น

โดยผู้หญิงจะมีความเสี่ยงในการเกิดโรคนี้ได้มากกว่าผู้ชายถึง 13 เท่า

เพราะว่า เอ็นมีความยืดหยุ่นมากกว่า จึงถูกดัดได้มากกว่าถ้ามีพันธุกรรมคนในครอบครัวเป็นโรคนี้ ก็จะมีความเสี่ยงมากกว่าปกติ หรือการมีเท้าที่แบนหรือกระดูกนิ้วเท้ายาวกว่าปกติ ก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุอีกสาเหตุที่พบบ่อย คือ การใส่รองเท้าที่ผิดรองเท้าที่มีความเสี่ยง คือ รองเท้าส้นสูงหัวแหลมบีบปลายและมีส้นที่สูง ร่วมกับหัวที่แหลมก็จะบีบที่ปลายนิ้วเท้าเมื่อใส่เป็นเวลานานๆ ก็จะดัดให้เท้าผิดรูปถาวรได้ ซึ่งจะพบในผู้หญิงวัยกลางคน ขณะเดียวกันในคนไข้ที่มีอาการนิ้วหัวแม่เท้าเกมากๆ
นิ้วอาจจะซ้อนกันสีด้านในรองเท้า ดังนั้นการหารองเท้าใส่ก็จะยากขึ้น จนบางครั้งใส่ได้แต่รองเท้าแตะก็มีสำหรับคนไข้ที่มีปัญหากับโรคดังกล่าวแล้ว การรักษาถ้าเป็นไม่มากแพทย์ จะให้ใส่อุปกรณ์พยุงนิ้วเท้าไม่ให้เป็นมากขึ้นจะใช้ซิลิโคนคั่นนิ้วเท้า ร่วมกับรับประทานยาลดอาการอักเสบ
แต่ถ้ามีอาการปวดเท้าเรื้อรัง นิ้วหัวแม่เท้าเกผิดรูป หรือนิ้วขี่กันแพทย์จะต้องทำการผ่าตัดเพื่อจัดกระดูก โดยจะตัดแต่งกระดูกให้นิ้วหัวแม่เท้ากลับมาตรงหรือเจียรปุ่มกระดูกที่นูนออก เพื่อให้สามารถใส่รองเท้าได้

ทั้งนี้ โรงพยาบาลเวชธานี ลาดพร้าว 111 มีนวัตกรรมการผ่าตัดแผลเล็กโดยใช้เครื่องกรอที่คล้ายกับเครื่องมือทางทันตกรรม ซึ่งขนาดหัวกรอมีขนาด 2 มิลลิเมตร ในการตัดกระดูกและยึดตรึงด้วยน็อตทางการแพทย์ แผลจะเล็กลง ประมาณปลายปากกาลูกลื่นจำนวน 3 – 5 แผลจะทำให้มีอาการเจ็บปวดน้อยมาก สามารถกลับไปสู่การใช้ชีวิตที่ปกติได้เร็วขึ้น

อย่างไรก็ตาม ในเบื้องต้นถ้าอยากจะทราบว่า มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนิ้วหัวแม่เท้าเกหรือไม่ให้ลองถอดรองเท้าที่ใส่ประจำมาดูว่า หัวรองเท้าแคบไปหรือไม่ ใส่แล้วบีบเท้ามากไปหรือเปล่าและนำพื้นรองเท้ามาแนบกับฝ่าเท้าดูว่านิ้วเท้าของเรายื่นเลยจากขอบรองเท้า ซึ่งปกตินิ้วหัวแม่เท้ากับนิ้วชี้ควรขนานกันไม่ควรเอียงเข้าหากันโดยสังเกต โคนนิ้วว่ามีอาการบวม ปวด หรือมีกระดูกงอก นูนออกมาหรือไม่ถ้ามีควรมาพบแพทย์เพื่อตรวจดูอาการอีกครั้ง

สุดท้าย แพทย์ขอฝากวิธีเลือกรองเท้าที่เหมาะสมคือ รองเท้าไม่คับ หัวรองเท้าไม่บีบ
ทดสอบโดยใส่รองเท้าแล้วให้มีพี้นที่พอที่จะกระดิกนิ้วหัวแม่โป้งได้ รวมถึงพื้นในรองเท้าควรนิ่มไม่แข็งจนเกินไป
ส้นไม่สูงเกิน 2 นิ้ว และมีก้านรองเท้าที่มั่นคง เท่านี้ก็จะเป็นการดูแลสุขภาพที่ดีขึ้น

นพ. ภัทร จุลศิริ
ศัลยแพทย์กระดูกและข้อเฉพาะทางด้านเท้าและข้อเท้า
โรงพยาบาลเวชธานี

  • Readers Rating
  • No Rating Yet!
  • Your Rating