ฝีคัณฑสูตร เป็นแล้วทรมาน ป้องกันได้โดยเริ่มจากการดูแลสุขอนามัย

บทความสุขภาพ

โรคฝีคัณฑสูตร ฟังดูอาจไม่คุ้นหูเท่าใดนัก แต่หากเกิดขึ้นแล้วอาการของโรคค่อนข้างรุนแรง และสร้างความเจ็บปวดยิ่งนัก ผู้ป่วยส่วนใหญ่มักอยู่ในช่วงวัยกลางคนจนถึงผู้สูงอายุ และมักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิงถึง 2 เท่า

นพ.ปิยะ โตเต็มโชคชัยการ ศัลยแพทย์ทั่วไป อธิบายว่า โรคฝีคัณฑสูตร คือการติดเชื้อของต่อมที่อยู่ในทวารหนัก หลายคนอาจเข้าใจผิดคิดว่า ฝีบริเวณดังกล่าว เกิดจากการติดเชื้อจากผิวหนังเข้าไปด้านในทวารหนัก แต่ความจริงแล้วเกิดจากการติดเชื้อของต่อมด้านใน เนื่องจากต่อมเหล่านี้มีโอกาสติดเชื้อได้ เพราะเป็นทางผ่านของอุจจาระ ดังนั้นหากต่อมใดต่อมหนึ่งเกิดการติดเชื้อ จะทำให้เกิดฝีที่เป็นลูก ๆ ขึ้นในบริเวณข้างทวารหนัก

สำหรับการวินิจฉัยนั้น แพทย์จะประเมินอาการผู้ป่วยจากการตรวจร่างกายเบื้องต้น และเอ็กซเรย์เพื่อตรวจอย่างละเอียดอีกครั้ง ว่าต่อมที่ติดเชื้ออยู่บริเวณใด อย่างไรก็ตามหากเป็นฝีคัณฑสูตรแล้วไม่ทำการรักษา อาจส่งผลให้การติดเชื้อลุกลามเข้าไปถึงเยื่อหุ้มกล้ามเนื้อ และลามเข้าไปยังอวัยวะภายในส่วนอื่นได้

อาการของโรคฝีคัณฑสูตร

  • ปวด บวมบริเวณแก้มก้น หรือบริเวณขอบรูทวารหนัก
  • เจ็บปวดขณะขับถ่าย
  • มีน้ำเหลืองซึมออกมาจากรูที่ผิวหนัง
  • อาจมีเลือดปน หรือเป็นหนอง
  • มีอาการคันรอบ ๆ รูที่ผิวหนัง
  • มีการอักเสบและแดง บริเวณผิวหนังรอบ ๆ รู
  •  มีไข้

วิธีการรักษา

โรคฝีคัณฑสูตรไม่สามารถหายเองได้หากไม่รับการรักษา เพราะมีทางเข้าของเชื้อโรคจากด้านในรูทวารหนัก โดยแพทย์จะรักษาด้วยการผ่าตัด หากช่องผ่านของเชื้อโรคอยู่ลึกและซับซ้อน แพทย์จะต้องผ่าตัดเลาะอุโมงค์ผ่านกล้ามเนื้อเข้าไป หรือตัดทางผ่านของเชื้อโรคจากรูด้านในให้ได้

การป้องกันไม่ให้เกิดโรคฝีคัณฑสูตร

โรคฝีคัณฑสูตร สามารถป้องกันได้ หากดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง ทั้งจากการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ มีกากใยสูงส่งเสริมการขับถ่าย ดื่มน้ำในปริมาณที่พอเหมาะ และหมั่นออกกำลังกายสม่ำเสมอ รวมถึงการฝึกขับถ่ายเพื่อเลี่ยงอาการท้องผูก และดูแลสุขอนามัยหลังการขับถ่ายอย่างเหมาะสม สำหรับผู้ที่มีโรคเบาหวานเป็นโรคประจำตัว จะต้องควรคุมเบาหวานให้ดี

Medically Reviewed by

นพ. ปิยะ โตเต็มโชคชัยการ
นพ. ปิยะ โตเต็มโชคชัยการ

ศัลยศาสตร์

ศัลยศาสตร์ทั่วไป

Readers’ Rating

0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)