รู้แต่ไม่รักษา = พกระเบิดเวลาไว้ในตัว! “นิ่วในถุงน้ำดี” อันตรายกว่าที่คิด
นิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากการตกผลึกของคอเลสเตอรอลในน้ำดี อาการปวดท้องขวา คลื่นไส้ หรือดีซ่าน อาจเป็นสัญญาณเตือน รีบตรวจวินิจฉัยก่อนสาย
โดยทั่วไปการตรวจพบนิ่วในถุงน้ำดี จะพบได้จาก 2 รูปแบบ
- กลุ่มไม่มีอาการ มักตรวจพบจากการตรวจสุขภาพ
- กลุ่มที่มีอาการ มักปวดจุก ๆ แน่น ๆ บริเวณลิ้นปี่
ตรวจพบจากการถูกส่งอัลตราซาวดน์ดูความผิดปกติของช่องท้องส่วนบนปัญหาที่ตามมา หลังจากที่พบนิ่วในถุงน้ำดี คืออาจมีอาการปวดท้องรุนแรง ตาเหลือง ตัวเหลือง หรือมีภาวะติดเชื้อ ซึ่งอาจรุนแรงจนถึงขั้นเสียชีวิตได้ จากการเกิดภาวะแทรกซ้อนหากก้อนนิ่วไปอุดตันตามส่วนต่าง ๆ ได้แก่
- นิ่วอุดตันบริเวณปากถุงน้ำดี มีความเสี่ยงเกิดภาวะถุงน้ำดีอักเสบ ทั้งชนิดอักเสบไม่รุนแรง และชนิดอักเสบรุนแรงมากถึงขั้นติดเชื้อในกระแสเลือด และเสียชีวิตได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่ภูมิคุ้มกันไม่ดี มีโรคประจำตัว หรือมีอายุที่มากขึ้น
- นิ่วอุดตันบริเวณท่อน้ำดี ทำให้น้ำดีไม่สามารถไหลลงมาที่ลำไส้ แต่ไหลย้อนกลับไปที่ตับ จะส่งผลให้เกิดภาวะตาเหลือง ตัวเหลืองหรือท่อน้ำดีอักเสบได้
- นิ่วอุดตันบริเวณปลายท่อน้ำดี มีความเสี่ยงเกิดภาวะตับอ่อนอักเสบ เนื่องจากอยู่ใกล้กับท่อตับอ่อนที่มีหน้าที่ขับน้ำย่อยออกมา ทำให้น้ำย่อยออกไม่ได้และไหลย้อนกลับไปที่เนื้อของตับอ่อน มีหลายระดับความรุนแรง หากอักเสบรุนแรงมาก อาจเกิดภาวะช็อคและเสียชีวิตได้
นอกจากนี้ ในลำไส้ของเรามีเชื้อโรคอยู่ หากมีการอุดตันจนน้ำดีไหลลงมาชะล้างไม่ได้ อาจเพิ่มโอกาสที่จะมีเชื้อโรคเข้าไปในท่อน้ำดี และเกิดภาวะท่อน้ำดีอักเสบ มีอาการตาเหลือง ตัวเหลืองร่วมกับมีไข้หนาวสั่นได้ปัจจุบัน การผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี จะใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้มีแผลขนาดเล็กประมาณ 5 มม. – 1 ซม. เจ็บตัวน้อย ฟื้นตัวเร็ว กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ไว
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป
โทร. 
0-2734 0000 ต่อ 4500, 4501
Readers’ Rating
5.0 out of 5 stars (based on 1 review)
