“PM2.5 ทำพิษ! อากาศที่คุณหายใจทุกวัน อาจกำลังทำไซนัสอักเสบแบบเงียบๆ”
PM2.5 ละอองจิ๋วที่กระตุ้นอาการคัดจมูกเรื้อรัง และเสี่ยงไซนัสอักเสบ ดูวิธีป้องกันและแนวทางรักษา
ปัญหามีบุตรยาก ไม่ได้มีสาเหตุมาจากความไม่สมบูรณ์ของเชื้ออสุจิหรือไข่เพียงเท่านั้น แต่อาจเกิดขึ้นหลังการปฏิสนธิ แล้วตัวอ่อนไม่สามารถฟักตัวออกจากเปลือกไข่ได้ นับเป็นอีกหนึ่งอุปสรรคสำคัญ ที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการตั้งครรภ์ที่มักพบได้บ่อยเช่นกัน
ตัวอ่อนที่ปฏิสนธิภายนอกร่างกายด้วยวิธีการอิ๊กซี่ ในบางครั้งพบว่าตัวเปลือกมีความผิดปกติ หรือมีความหนาของเปลือกไข่มากกว่าปกติ ซึ่งอาจทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถฟัก หรือออกมาจากเปลือกไข่ได้ ส่งผลให้ตัวอ่อนเสียชีวิตอยู่ภายในเปลือกไข่ เช่นเดียวกับลูกเจี๊ยบที่ไม่สามารถเจาะออกจากเปลือกไข่ ทำให้โอกาสในการตั้งครรภ์ลดลง เพราะตัวอ่อนไม่สามารถออกมาฝังตัว แต่หากเราช่วยให้เปลือกไข่บางลง หรือทำให้เกิดรู จะทำให้ตัวอ่อนออกจากเปลือกได้ง่ายขึ้น และมีโอกาสฝังตัวในโพรงมดลูกมากขึ้น สามารถเพิ่มโอกาสการตั้งครรภ์ได้
เทคโนโลยีที่กล่าวมานี้ คือ การช่วยฟักตัวอ่อนจากเปลือกไข่ โดยในอดีตจะใช้เข็มเจาะเพื่อเปิดเปลือกไข่ต่อมาเปลี่ยนเป็นการใช้สารเคมี และในปัจจุบันได้ใช้เลเซอร์เข้ามาช่วยในการเจาะเปลือกไข่ วิธีดังกล่าวเรียกว่า LAH (Laser Assisted Hatching) ซึ่งการใช้เลเซอร์นั้น มีความแม่นยำสูง ไม่เป็นอันตรายต่อตัวอ่อน และยังเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์อีกด้วย
นอกจากการช่วยตัวอ่อนฟักตัวออกจากเปลือกไข่ด้วยเลเซอร์แล้ว บางกรณีจะเจาะเปลือกไข่และนำเซลล์ ของตัวอ่อนออกมา เพื่อทำการตรวจคัดกรอง และวินิจฉัยโครโมโซมของตัวอ่อน ก่อนการฝังตัว (PGS/PGD :Preimplantation Genetic Screening/Diagnosis) เป็นการนำเซลล์ของตัวอ่อนในระยะ 3 หรือ 5 วัน ที่ได้จากการทำอิ๊กซึ่ มาตรวจวินิจฉัย เพื่อดูว่าตัวอ่อนมีความผิดปกติของจำนวนโครโมโซมหรือไม่ จากนั้นจึงนำตัวอ่อนที่สมบูรณ์ใส่กลับสู่โพรงมดลูก เพื่อให้เกิดกระบวนการตั้งครรภ์ต่อไป
นำตัวอ่อนที่ได้จากการทำอิ๊กซี่ ในระยะ 3 หรือ 5 วัน มาเจาะบริเวณเปลือกให้เป็นรูเล็กๆ ด้วยเลเซอร์ แล้วใช้แท่งแก้วขนาดเล็ก ดึงเซลล์ที่อยู่ภายในตัวอ่อนออกมาจำนวนหนึ่ง เพื่อนำมาตรวจด้วยวิธีที่เรียกว่า CGH (Comparative Genomic Hybridization) หรือ NGS ( Next Generation Sequencing) ซึ่งเป็นการตรวจโครโมโซมครบทุกคู่ รวมทั้งโครโมโซมเพศด้วย หลังจากนั้นจะทำการย้ายตัวอ่อน เฉพาะตัวที่โครโมโซมปกติเข้าไปในโพรงมดลูก เพื่อให้เกิดการตั้งครรภ์ต่อไป
การดูดนำเซลล์จากตัวอ่อนในระยะ 3 หรือ 5 วัน จะไม่ส่งผลให้เกิดความพิการ เพราะเซลล์ทุกเซลล์ในตัวอ่อนระยะนี้ ยังไม่ได้ถูกโปรแกรมว่าจะให้เซลล์ใดเจริญไปเป็นตัวอ่อน หรืออวัยวะใดๆ ทำให้เซลล์ที่เหลือในตัวอ่อนสามารถแบ่งตัวได้ โดยจะไม่เกิดความผิดปกติต่อทารก และยังสามารถแบ่งตัวต่อไปจนฝังตัวได้ตามปกติ
ภาวะมีบุตรยากเป็นปัญหาที่สามารถหาทางออกได้ คู่สมรสที่วางแผนมีบุตร แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ สามารถเข้ามาปรึกษาแพทย์ เพื่อร่วมกันหาทางออกที่เหมาะสมที่สุด อย่ากังวลหรือด่วนสรุปว่าตนจะไม่สามารถมีบุตรได้ เพราะทุกปัญหาล้วนมีทางแก้ไข


สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา - เวชศาสตร์การเจริญพันธุ์