“PM2.5 ทำพิษ! อากาศที่คุณหายใจทุกวัน อาจกำลังทำไซนัสอักเสบแบบเงียบๆ” 

บทความสุขภาพ

ทุกปีในช่วงฤดูหนาว หลายพื้นที่ของประเทศไทยมักต้องเผชิญกับ “ฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5” ที่ลอยปกคลุมทั่วเมือง โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ และภาคเหนือ ค่าฝุ่นในอากาศมักเกินมาตรฐานและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้ เยื่อบุจมูกอักเสบ หรือภาวะคัดจมูกเรื้อรัง

ฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กกว่าเส้นผมถึง 20 เท่า สามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบทางเดินหายใจส่วนบนและส่วนล่างได้อย่างง่าย จึงส่งผลกระทบต่อสุขภาพทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่มีโรคประจำตัวทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืด

ผลกระทบของ PM 2.5 ต่อระบบทางเดินหายใจ

ผลกระทบระยะสั้น

  • ระคายเคืองดวงตา จมูก และลำคอ
  • ไอ จาม น้ำมูกไหล หายใจไม่สะดวก
  • ปอดทำงานลดลง
  • โรคประจำตัว เช่น หอบหืดหรือโรคหัวใจ กำเริบได้ง่าย

ผลกระทบระยะยาว

  • เสี่ยงเกิดหลอดลมอักเสบเรื้อรัง
  • สมรรถภาพปอดลดลงอย่างถาวร
  • เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งปอด เนื่องจาก PM 2.5 จัดเป็น “สารก่อมะเร็งกลุ่มที่ 1”
  • ผู้ป่วยภูมิแพ้เรื้อรังมีแนวโน้มอาการกำเริบบ่อย และเกิดการอักเสบของเยื่อบุโพรงจมูกซ้ำซ้อน

สัญญาณเตือนที่ไม่ควรมองข้าม

ฝุ่นพิษขนาดเล็กนี้อาจกระตุ้นให้เกิดอาการทางจมูก เช่น

  • จาม คันจมูก น้ำมูกไหล
  • เสมหะไหลลงคอ
  • หายใจไม่โล่ง คัดจมูกตลอดเวลา
  • บางรายมีเลือดกำเดาไหลจากเยื่อบุจมูกอักเสบจนเกิดแผลเล็ก ๆ

หากปล่อยไว้นานโดยไม่รักษา อาจกลายเป็นภาวะ ไซนัสอักเสบเรื้อรัง หรือ คัดจมูกเรื้อรัง ซึ่งทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและรบกวนการนอนหลับ

ดูแลตัวเองอย่างไรให้ปลอดภัยในวันที่ค่าฝุ่นพุ่งสูง

  1. หลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง โดยเฉพาะในวันที่มีค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน
  2. สวมหน้ากาก N95 หรือ KN95 ทุกครั้งที่ต้องออกนอกบ้าน
  3. ล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เพื่อลดการสะสมของฝุ่นในโพรงจมูก
  4. รับประทานยาและพ่นยารักษาภูมิแพ้ อย่างต่อเนื่องตามแพทย์สั่ง
  5. ติดตามค่าฝุ่นแบบเรียลไทม์ ผ่านแอปฯ Air4Thai หรือเว็บไซต์กรมควบคุมมลพิษ

รักษา “คัดจมูกเรื้อรัง” ด้วยเทคโนโลยี RF (Radiofrequency)

สำหรับผู้ที่มีภาวะ เยื่อบุจมูกส่วนล่างโต หรืออาการคัดจมูกเรื้อรังที่ไม่ตอบสนองต่อการใช้ยา ปัจจุบันมีเทคโนโลยีการรักษาที่เรียกว่า RF (Radiofrequency)” หรือการรักษาด้วยคลื่นความถี่วิทยุ

หลักการรักษา

แพทย์จะใช้เข็มขนาดเล็กใส่เข้าไปในเยื่อบุโพรงจมูก แล้วส่งคลื่นความถี่วิทยุให้เปลี่ยนเป็นพลังงานความร้อน เพื่อทำให้เยื่อบุที่บวมโตหดตัวลง ส่งผลให้โพรงจมูกเปิดกว้างขึ้น ผู้ป่วยสามารถหายใจได้โล่งและสบายมากขึ้น

ข้อดีของการรักษาด้วย RF

  • ใช้ ยาชาเฉพาะที่ ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล
  • ใช้เวลาเพียง 10–15 นาที
  • ฟื้นตัวเร็ว เห็นผลภายใน 2 สัปดาห์
  • หากมีอาการกลับมาอีก สามารถทำซ้ำได้อย่างปลอดภัย

การเตรียมตัวก่อนและหลังการรักษาด้วย RF

ก่อนทำ RF

  • พักผ่อนให้เพียงพอ ป้องกันการติดเชื้อทางเดินหายใจ
  • หยุดยากลุ่มแอสไพรินหรือยาต้านการแข็งตัวของเลือด อย่างน้อย 7–10 วัน

หลังทำ RF

  • 24–48 ชั่วโมงแรก หลีกเลี่ยงการสั่งน้ำมูกแรง ๆ
  • งดออกกำลังกายหนักหรือยกของหนัก
  • หากมีเลือดออกเล็กน้อย ให้ นอนศีรษะสูงและประคบน้ำแข็ง
  • หากเลือดไม่หยุดหรือออกมากผิดปกติ ให้รีบพบแพทย์ทันที

ป้องกันวันนี้…ลดโอกาสเจ็บป่วยระยะยาว

ฝุ่น PM 2.5 ไม่ใช่แค่ปัญหาสิ่งแวดล้อม แต่คือ “ภัยเงียบ” ที่กระทบต่อสุขภาพโดยตรง โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิแพ้หรือคัดจมูกเรื้อรัง การดูแลตัวเองให้ห่างจากฝุ่น และเข้ารับการรักษาที่ถูกวิธีตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยให้คุณกลับมาหายใจโล่งได้อีกครั้ง

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับภาวะคัดจมูกเรื้อรังจากฝุ่น PM2.5

ทำไม PM 2.5 ถึงทำให้คัดจมูกเรื้อรัง?

เพราะฝุ่นขนาดเล็กนี้กระตุ้นให้เยื่อบุโพรงจมูกอักเสบและบวมโต ส่งผลให้โพรงจมูกตีบ หายใจไม่สะดวก และเกิดอาการคัดจมูกเรื้อรัง โดยเฉพาะในผู้ที่มี ภูมิแพ้ ไซนัสอักเสบ หรือหอบหืด

ล้างจมูกช่วยลดผลกระทบจาก PM2.5 ได้ไหม?

ได้! การล้างจมูกด้วยน้ำเกลือช่วยชะล้างฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ และลดการอักเสบในโพรงจมูกได้ ควรทำอย่างถูกวิธีและสม่ำเสมอ

เทคโนโลยี RF คืออะไร? รักษาอะไรได้บ้าง?

RF (Radiofrequency) เป็นเทคโนโลยีใช้คลื่นความถี่วิทยุส่งพลังงานความร้อนเข้าไปที่เยื่อบุโพรงจมูกที่บวม ทำให้หดตัวลง ช่วยให้อาการคัดจมูกเรื้อรังดีขึ้น เหมาะกับผู้ที่ รักษาด้วยยาแล้วไม่ดีขึ้น

ติดต่อสอบถามได้ที่

ศูนย์หูคอจมูก ชั้น 1 โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร.02-734-0000 ต่อ 3400

Medically Reviewed by

นพ. นัทพล ธรรมสิทธิ์บูรณ์
นพ. นัทพล ธรรมสิทธิ์บูรณ์

โสต ศอ นาสิกวิทยา

โสต ศอ นาสิกวิทยา - ทั่วไป

Readers’ Rating

5.0 out of 5 stars (based on 1 review)