ป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วยวัคซีนพ่นจมูก ทางเลือกที่ไม่เจ็บตัว

บทความสุขภาพ
Mother and child wearing masks discussing nasal spray flu vaccine (LAIV) for influenza prevention at Vejthani Hospital

ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคทางเดินหายใจที่เกิดจากเชื้อไวรัส สามารถทำให้ผู้ป่วยมีอาการตั้งแต่เล็กน้อยจนถึงรุนแรง  โดยเฉพาะในเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ และผู้มีโรคประจำตัว วัคซีนจึงเป็นหนึ่งในแนวทางสำคัญที่ช่วยลดการแพร่ระบาดและป้องกันภาวะแทรกซ้อน

วัคซีนพ่นจมูกคืออะไร

วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก (Live Attenuated Influenza Vaccine: LAIV) ถูกพัฒนาขึ้นมาเพื่อเพิ่มความสะดวกและช่วยให้การสร้างภูมิคุ้มกันเกิดขึ้นได้โดยไม่ต้องเจ็บตัวจากการฉีด

ทำไมวัคซีนพ่นจมูกจึงน่าสนใจ?

  • ไม่ต้องใช้เข็ม : ให้วัคซีนโดยการพ่นเข้าโพรงจมูก ทำให้เป็นมิตรต่อเด็กและผู้ที่กลัวการฉีดยา
  • สร้างภูมิคุ้มกันตั้งแต่ด่านแรกของร่างกาย: จมูกเป็นจุดที่เชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกาย วัคซีนชนิดนี้สามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้ตั้งแต่จุดเริ่มต้น
  • ประสิทธิภาพสูงในเด็ก : งานวิจัยพบว่าสามารถลดโอกาสติดเชื้อไข้หวัดใหญ่ในเด็กได้มากถึง 88%
  • ลดความรุนแรงของโรค : แม้ติดเชื้อ วัคซีนก็ยังช่วยลดโอกาสการนอนโรงพยาบาลได้กว่า 60%
  • ป้องกันโรคได้ยาวนาน : วัคซีนนี้สามารถป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ได้นานถึง 1 ปี ทำให้ไม่จำเป็นต้องฉีดบ่อย
  • ปลอดภัย ใช้มายาวนานทั่วโลก : วัคซีนนี้ถูกใช้มานานกว่า 20 ปี และได้รับการแนะนำให้เป็นทางเลือกแรกในเด็กอายุ 2–17 ปี ในหลายประเทศ

ใครที่เหมาะกับวัคซีนชนิดนี้?

  • เด็กและผู้ใหญ่ที่มีอายุ 2–49 ปี
  • ผู้ที่ไม่ชอบการฉีดวัคซีน หรือกลัวเข็ม
  • ผู้ที่ต้องการทางเลือกที่ปลอดภัยและไม่เจ็บตัว

อาการข้างเคียงที่อาจพบ

วัคซีนชนิดพ่นจมูกมีความปลอดภัยสูง แต่บางรายอาจพบอาการข้างเคียงที่ไม่รุนแรง เช่น

  • คัดจมูก น้ำมูกไหล
  • ไข้ต่ำ ๆ

ซึ่งอาการเหล่านี้ไม่รุนแรง และจะหายได้เองภายใน 1–3 วัน

ทำไมควรฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ทุกปี?

ไวรัสไข้หวัดใหญ่เปลี่ยนแปลงสายพันธุ์ได้ตลอดเวลา การฉีดหรือพ่นวัคซีนเป็นประจำทุกปีจึงสำคัญ เพื่อให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่สอดคล้องกับเชื้อที่ระบาดในปีนั้น ๆ

ดังนั้นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูก (LAIV) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่เหมาะสำหรับผู้ที่มีอายุ 2–49 ปี โดยเฉพาะเด็กและวัยรุ่น จุดเด่นคือไม่ต้องใช้เข็ม ให้ภูมิคุ้มกันตรงจุดแรกที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย และมีประสิทธิภาพสูงในการลดทั้งอัตราการติดเชื้อและความรุนแรงของโรค 

คำถามที่พบบ่อยในวัคซีนไข้หวัดใหญ่ FAQ 

Q: วัคซีนไข้หวัดใหญ่ชนิดพ่นจมูกต่างจากชนิดฉีดยังไง?

A: วัคซีนพ่นจมูกให้ผ่านทางโพรงจมูก ไม่ต้องใช้เข็ม และกระตุ้นภูมิคุ้มกันตั้งแต่ด่านแรกที่เชื้อเข้าสู่ร่างกาย ขณะที่วัคซีนชนิดฉีดเข้ากล้ามเนื้อ และจะเข้าสู่กระแสเลือด

Q: เด็กเล็กสามารถรับวัคซีนชนิดพ่นจมูกได้หรือไม่?

A: เด็กที่อายุตั้งแต่ 2 ปีขึ้นไปจนถึงผู้ใหญ่ 49 ปี สามารถรับวัคซีนชนิดนี้ได้ แต่หากเด็กอายุต่ำกว่า 2 ปี ควรใช้วัคซีนชนิดฉีดแทน

Q: ควรพ่นวัคซีนไข้หวัดใหญ่ช่วงเวลาไหน?

A: แนะนำให้รับวัคซีนทุกปี ก่อนฤดูการแพร่ระบาดของไข้หวัดใหญ่ เช่น ช่วงต้นฤดูฝนหรือฤดูหนาว

Q: วัคซีนพ่นจมูกป้องกันได้นานแค่ไหน?

A: วัคซีนสามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ 1 ปี และแนะนำให้พ่นซ้ำทุกปีเพื่อให้สอดคล้องกับสายพันธุ์ของเชื้อที่เปลี่ยนไป

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์กุมารเวชกรรม โรงพยาบาลเวชธานี อินเตอร์เนชั่นแนล
โทร. 02-734-0000

Medically Reviewed by

นพ. สุรวัช หอมวิเศษ
นพ. สุรวัช หอมวิเศษ

กุมารเวชศาสตร์

กุมารเวชศาสตร์โรคภูมิแพ้และภูมิคุ้มกัน

Readers’ Rating

0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)