ไวรัสตับอักเสบ ปล่อยไว้นาน อาจลุกลามจนเกิด มะเร็งตับ
ไวรัสตับอักเสบทำลายเซลล์ตับ เสี่ยงตับแข็งและมะเร็งตับ แม้ไม่มีอาการ ตรวจเช็กก่อนสายเกินไป
แม้ว่าจะมีวัคซีนป้องกันโรคนี้
- โรคไวรัสตับอับเสบบีไม่ใช่
โรคที่ติดต่อกันทางน้ำลาย สามารถกอดจูบ (จูบได้แต่ภายในปากต้องไม่มี บาดแผล) ทานข้าวร่วมกัน ดื่มน้ำร่วมกันได้ และไม่ติดต่อผ่านทางลมหายใจ แต่จะติดต่อกันทางสารคัดหลั่งอื่ นๆ เช่น น้ำเหลือง น้ำเชื้อ และเลือด ที่ผ่านเข้าสู่ร่ างกายทางบาดแผล ดังนั้นการติดต่อจะผ่านทางการมี เพศสัมพันธ์โดยไม่ใช้ถุ งยางอนามัย ใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน ใช้เข็มที่สักหรือเจาะหูร่วมกัน และติดต่อทางกรรมพันธุ์จากแม่สู่ ลูก - นอกจากจะมีผู้ป่วยโรคไวรัสตั
บอับเสบบีแล้ว ยังมีผู้ที่เป็นเพียงพาหะ คือผู้ที่มีเชื้ออยู่ในร่ างกายแต่ไม่แสดงอาการป่วยออกมา ดังนั้นตอนตรวจร่างกายก่อนแต่ งงานควรหาเชื้อโรคไวรัสตับอั บเสบบีด้วย - โรคไวรัสตับอับเสบบี มีไวรัสทำให้ตับอักเสบ จนทำให้มีอาการป่วย เช่น เบื่ออาหาร อ่อนเพลีย ท้องร่วง ตัวเหลือง ตาเหลือง ปวดกระเพาะ กล้ามเนื้อ และตามข้อต่างๆ หากเป็นแบบเรื้อรังอาจลุ
กลามจนเป็นโรคมะเร็งตับได้ - นอกจากนี้ยังมีโรคไวรัสตับอั
บเสบเอ ซี ดี และอี อีกด้วย แต่โรคไวรัสตับอับเสบบีเป็นชนิ ดที่พบบ่อยที่สุด และอันตรายจนถึงขั้นเสียชีวิ ตได้ในภายหลัง (หากเป็นเรื้อรัง) - โดยปกติเด็กเล็กแพทย์จะนัดฉี
ดวัคซีนโรคไวรัสตับอับเสบบีให้ ครบ 3 เข็มอยู่แล้ว แต่เมื่อโตขึ้นอาจมีการฉีดวัคซี นกระตุ้น แล้วแต่ความเหมาะสมและดุลยพินิ จของแพทย์ ทางที่ดีควรตรวจสุขภาพ และตรวจเลือดทุกปี เพื่อตรวจว่ายังมีวัคซีนป้องกั นโรคไวรัสตับอับเสบบีอยู่ในร่ างกายหรือไม่
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตั
โทร. 0-2734-0000 ต่อ 2960
Medically Reviewed by
นพ. สุขประเสริฐ จุฑากอเกียรติ
อายุรศาสตร์
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร
Readers’ Rating
0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)
