ประจำเดือนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของติ่งเนื้อในโพรงมดลูก?
ประจำเดือนผิดปกติ ไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
หูดหงอนไก่คืออะไร ทำไมจึงต้องรีบรักษา
แม้จะเป็นเพียง ตุ่มเนื้อเล็ก ๆ ที่ดูไม่น่ากังวลในสายตาของบางคน แต่ หูดที่อวัยวะเพศ หรือที่รู้จักกันว่า “หูดหงอนไก่” กลับส่งผลกระทบทั้งต่อสุขภาพร่างกายและสภาพจิตใจของผู้ป่วย เพราะเป็น โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ ที่แพร่กระจายได้ง่าย แต่อาจแฝงตัวอยู่ในร่างกายโดยไม่แสดงอาการนานหลายเดือนหรือหลายปี โชคดีที่ปัจจุบันสามารถ รักษาหูดหงอนไก่ ได้อย่างปลอดภัยด้วย เทคโนโลยีเลเซอร์ ซึ่งช่วยกำจัดหูดโดยไม่ต้องผ่าตัด และไม่ทิ้งรอยแผลเป็น
การติดเชื้อ HPV และการแพร่กระจาย
หูดหงอนไก่ (Condyloma Acuminata) เกิดจากการติดเชื้อไวรัส HPV (Human Papillomavirus) โดยเฉพาะสายพันธุ์ที่ 6 และ 11 แม้จะไม่ใช่สายพันธุ์ที่ก่อมะเร็ง แต่สามารถทำให้เกิด ติ่งเนื้อขรุขระคล้ายหงอนไก่ บริเวณอวัยวะเพศ ขาหนีบ ทวารหนัก หรือแม้กระทั่งในช่องปากได้
การติดเชื้อ HPV มักเกิดขึ้นจากการสัมผัสทางเพศสัมพันธ์ ทั้งทางช่องคลอด ทวารหนัก หรือทางปาก แม้ไม่มีการสอดใส่โดยตรงก็ตาม และหลายคนอาจไม่รู้ตัวว่าตนเองติดเชื้อ เพราะอาการอาจไม่แสดงออกนานหลายเดือนหรือแม้กระทั่งหลายปี ทำให้เผลอแพร่เชื้อต่อโดยไม่รู้ตัว
อาการของหูดหงอนไก่
อาการของหูดหงอนไก่มักเริ่มจาก ตุ่มเนื้อเล็กๆ สีชมพูหรือสีเนื้อที่ขึ้นเดี่ยวๆ หรือเป็นกลุ่ม ต่อมาอาจขยายขนาดจนก่อให้เกิดความรำคาญ คัน หรือเจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ บางรายอาจมีเลือดออก หรือมีปัญหาเรื่องปัสสาวะหากหูดอยู่ในตำแหน่งใกล้ท่อปัสสาวะ ในผู้หญิง หูดอาจเกิดลึกเข้าไปในช่องคลอด ซึ่งทำให้ตรวจพบได้ยาก และอาจต้องอาศัยการตรวจภายในเพื่อยืนยันการวินิจฉัย
ทางเลือกการรักษาหูดหงอนไก่
แม้หูดที่อวัยวะเพศจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่ก็กระทบต่อคุณภาพชีวิต โดยเฉพาะด้านความมั่นใจและความสัมพันธ์คู่รัก ปัจจุบันมีวิธีรักษาหูดหงอนไก่หลายวิธี เช่น
- การทายา
- การจี้ด้วยความเย็น (Cryotherapy)
- การจี้ด้วยไฟฟ้า (Electrocautery)
- การใช้ เลเซอร์ CO₂ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ทันสมัยและให้ผลแม่นยำ
เลเซอร์ CO₂ ทางเลือกในการรักษาหูดหงอนไก่ที่ปลอดภัย
การใช้เลเซอร์กำจัดหูดหงอนไก่ เป็นการใช้พลังงานความร้อนจากแสงเลเซอร์ในการทำลายเซลล์หูดอย่างเฉพาะเจาะจง โดยไม่ทำลายเนื้อเยื่อโดยรอบมากนัก ซึ่งช่วยลดโอกาสเกิดแผลเป็นหลังการรักษา ทั้งยังไม่ต้องเย็บแผล ไม่มีเลือดออกมาก และใช้เวลาพักฟื้นน้อยกว่าวิธีอื่น ผู้ป่วยบางรายสามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ภายใน 1–2 วัน
เตรียมตัวก่อนทำเลเซอร์รักษาหูดหงอนไก่
- งดมีเพศสัมพันธ์ 3–5 วันก่อนเข้ารับการรักษา เพื่อป้องกันการระคายเคืองหรือการแพร่กระจายของเชื้อเพิ่มเติม รวมถึงช่วยให้พื้นที่ที่รักษาอยู่ในสภาพดีที่สุด
- ทำความสะอาดร่างกายโดยเฉพาะบริเวณอวัยวะเพศให้สะอาดในวันเข้ารับการรักษา
แนะนำให้ใช้น้ำสะอาดและสบู่อ่อน หลีกเลี่ยงการใช้สารที่มีน้ำหอม - แจ้งแพทย์หากตั้งครรภ์ หรือมีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เพราะอาจต้องปรับแผนการรักษา หรือมีแนวทางพิเศษในการดูแลแผล
- งดยาบางชนิด เช่น แอสไพริน หรือยาละลายลิ่มเลือด (ถ้ามี) ตามคำแนะนำของแพทย์
เพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากเลือดออก
การดูแลหลังเลเซอร์กำจัดหูดหงอนไก่
- ทำความสะอาดแผลอย่างสม่ำเสมอ โดยใช้น้ำเกลือเช็ดแผลเบาๆ วันละ 1–2 ครั้ง และใช้ยาทาแผลตามคำแนะนำของแพทย์ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
- งดเพศสัมพันธ์อย่างน้อย 2–4 สัปดาห์ เพื่อให้แผลหายสนิทและลดโอกาสการติดเชื้อซ้ำหรือระคายเคือง
- สวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี หลีกเลี่ยงการใส่เสื้อผ้ารัดแน่น เช่น กางเกงในรัดรูป เพื่อให้บริเวณแผลไม่อับชื้นและระบายอากาศได้ดี
- สังเกตอาการผิดปกติ เช่น มีหนอง บวม แดงจัด หรือเจ็บมากขึ้น หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบกลับมาพบแพทย์ทันที เพราะอาจเกิดการติดเชื้อ
- ติดตามผลตามนัดของแพทย์ เพื่อประเมินแผลและตรวจซ้ำว่ามีหูดหลงเหลือหรือไม่ และพิจารณาการรักษาเพิ่มเติมหากจำเป็น
- พิจารณาฉีดวัคซีน HPV หลังการรักษา เพื่อป้องกันการติดเชื้อซ้ำ และลดความเสี่ยงในการเกิดหูดหรือมะเร็งที่เกี่ยวข้องกับ HPV ในอนาคต
การป้องกันสำคัญที่สุด
แม้การรักษาด้วยเลเซอร์หูดหงอนไก่ จะมีประสิทธิภาพสูง แต่เชื้อ HPV อาจยังหลงเหลือในร่างกาย ทำให้กลับมาเป็นซ้ำได้ การป้องกันจึงเป็นสิ่งสำคัญ เช่น
- การใช้ถุงยางอนามัย
- การตรวจสุขภาพประจำปี
- การฉีดวัคซีน HPV โดยเฉพาะก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000
Medically Reviewed by
ผศ.นพ. คมกฤช เอี่ยมจิรกุล
สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
สูติ-นรีเวชวิทยา - นรีเวชทางเดินปัสสาวะ
Readers’ Rating
0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)
