ป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วยวัคซีนพ่นจมูก ทางเลือกที่ไม่เจ็บตัว
ป้องกันไข้หวัดใหญ่ด้วยวัคซีนพ่นจมูก (LAIV) เหมาะสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ 2–49 ปี ไม่ต้องกลัวเข็ม กระตุ้นภูมิคุ้มกันตรงจุด ลดการติดเชื้อและความรุนแรงของโรคได้จริง
สิ่งที่พ่อแม่ส่วนใหญ่กังวลเป็นอันดับต้น ๆ คือการปรับตัวของลูกสุดที่รัก ไม่ว่าจะเป็นโรงเรียนใหม่ สังคมใหม่ รวมถึงกิจวัตรประจำวันที่ต่างออกไปจากเดิม เด็กบางคนสามารถปรับตัวตามสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ดี ในขณะที่เด็กบางคนอาจรับมือกับเรื่องเหล่านี้ได้ค่อนข้างยาก
ซึ่งการศึกษาพฤติกรรมและพัฒนาการของมนุษย์ กล่าวถึงความสามารถในการจัดการสิ่งต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในชีวิตของแต่ละคน โดยผ่านการทำงานของสมองที่แตกต่างกัน ทักษะสมองนี้เรียกว่า “ทักษะการคิดเชิงบริหาร” หรือ “Executive Function”
การคิดเชิงบริหาร คือ กระบวนการทำงานของสมองส่วนหน้า ที่ใช้ในการติดตาม ตรวจสอบ กำกับควบคุม และปรับเปลี่ยนตนเอง ทั้งความคิดและการกระทำ เพื่อให้เกิดพฤติกรรมที่มุ่งสู่เป้าหมาย (Goal Directed Behaviors) ไม่ใช่ทำสิ่งต่าง ๆ ตามสัญชาตญาณเท่านั้น โดยแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ ๆ ได้แก่


การคิดเชิงบริหาร เป็นทักษะจำเป็นในชีวิตประจำวัน ช่วยให้เด็กสามารถควบคุมตนเองได้ เช่น เมื่อโมโหสามารถข่มใจระงับอารมณ์ได้ ไม่โวยวายทำลายข้าวของ หรือสนใจฟังสิ่งที่ครูสอนในห้องเรียน ไม่วอกแวกจากสิ่งเร้า นอกจากนี้ การคิดเชิงบริหาร ยังช่วยให้เด็กมีทักษะสังคมที่ดีขึ้น เช่น การทำงานเป็นกลุ่ม และรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น เป็นต้น
สมองส่วนหน้า เกี่ยวข้องกับการพัฒนาการคิดเชิงบริหาร จะพัฒนามากในช่วงวัย “เด็กเล็ก” จนถึงวัยผู้ใหญ่ โดยทักษะการคิดเชิงบริหารจะพัฒนาเร็วสุดในช่วงวัย 3-5 ปี ซึ่งการมีทักษะการคิดเชิงบริหารทีดีนั้น เกิดจากการใช้ “เวลาคุณภาพ” กับครอบครัวตั้งแต่วัยเด็ก โดยผู้ปกครองคอยสนับสนุนให้เด็กได้ใช้ความสามารถอย่างเต็มที่ กับกิจกรรมเสริมทักษะที่เหมาะสมตามระดับพัฒนาการและช่วงวัย เช่น
ทั้งนี้ การเลี้ยงดูและเอาใส่ใจของครอบครัว มีความสำคัญต่อการพัฒนาทักษะการคิดเชิงบริหารของเด็ก เริ่มต้นตั้งแต่การให้ความรักความอบอุ่น ให้เด็กเติบโตอย่างมีความสุข สามารถช่วยเหลือตนเองได้ตามวัย ได้เรียนรู้กิจกรรมที่หลากหลาย ได้ลองผิดลองถูกภายใต้การดูแลของคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิด สิ่งเหล่านี้นอกจากจะเกิดเป็นทักษะการคิดเชิงบริหารแล้ว ยังเป็นพื้นฐานสำคัญในการดำรงชีวิตของเด็กต่อไปด้วย