

ทุกวันที่ 31 พฤษภาคมของทุกปี องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนดให้เป็น “วันงดสูบบุหรี่โลก” (World No Tobacco Day) เพื่อกระตุ้นให้ประชาคมโลกตระหนักถึงพิษภัยของการสูบบุหรี่ และผลกระทบต่อสุขภาพที่ไม่อาจมองข้ามได้
“บุหรี่” มีสารเคมีมากกว่า 7,000 ชนิด ซึ่งในจำนวนนี้มีสารพิษมากกว่า 250 ชนิด และสารก่อมะเร็งอีกมากกว่า 70 ชนิด ที่พร้อมจะส่งผลกระทบต่อระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกาย และก่อให้เกิดโรค ดังนี้
- หัวใจและหลอดเลือด การสูบบุหรี่เพียงไม่กี่มวนต่อวัน จะส่งผลให้หัวใจและหลอดเลือดเสียหาย สารพิษในบุหรี่ทำให้เกิดโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ และหลอดเลือดหัวใจตีบ
- โรคถุงลมโป่งพอง บุหรี่เป็นสาเหตุของอาการเหนื่อยหอบ หากรุนแรงมากขึ้นอาจส่งผลให้ผู้ป่วยมีภาวะเหนื่อยมากจนต้องนอนติดเตียง หรือต้องได้รับออกซิเจนตลอดเวลา
- โรคมะเร็ง บุหรี่เป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะโรคมะเร็งปอด ผู้ที่มีความเสี่ยงควรเข้ารับการตรวจคัดกรองด้วยการเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ชนิดปริมาณรังสีน้อย (Low Dose CT Scan)
- โรคกระดูกพรุน สารพิษนิโคตินเป็นตัวทำลายเซลล์สร้างมวลกระดูก จึงทำให้กระดูกบางลงเร็วขึ้น
- โรคเบาหวาน สารพิษในบุหรี่จะเข้าไปสะสมที่ตับอ่อน ทำให้ตับอ่อนทำงานได้น้อยลง และส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง ซึ่งก่อให้เกิดโรคเบาหวานตามมาได้
- โรคปอดอักเสบ: การสูบบุหรี่ทำลายเยื่อบุทางเดินหายใจ เพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจ
- โรคในทารกและเด็ก: งานวิจัยระบุว่า ควันบุหรี่มือสองและมือสามมีผลกระทบต่อสุขภาพเด็ก เช่น เสี่ยงต่อการเสียชีวิตเฉียบพลันโดยไม่ทราบสาเหตุ (Sudden Infant Death Syndrome – SIDS) การติดเชื้อทางเดินหายใจ โรคหอบหืด ภูมิแพ้ และส่งผลต่อพัฒนาการทางสมองและสติปัญญา
นอกจากนี้ โทษของการสูบบุหรี่ ยังส่งผลต่อบุคลิกภาพทั้งภายในและภายนอก โดยเฉพาะในการเข้าสังคมและการใช้ชีวิตประจำวัน เพราะฉะนั้น ยิ่งเลิกบุหรี่เร็วแค่ไหน ก็ยิ่งดีต่อสุขภาพและบุคลิกภาพของตัวเราเองมากขึ้นเท่านั้น
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์อายุรกรรม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating