รู้แต่ไม่รักษา = พกระเบิดเวลาไว้ในตัว! “นิ่วในถุงน้ำดี” อันตรายกว่าที่คิด
นิ่วในถุงน้ำดี เกิดจากการตกผลึกของคอเลสเตอรอลในน้ำดี อาการปวดท้องขวา คลื่นไส้ หรือดีซ่าน อาจเป็นสัญญาณเตือน รีบตรวจวินิจฉัยก่อนสาย
นิ่วในถุงน้ำดี เมื่อรับประทานอาหารโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมัน ร่างกายจะขับน้ำดีออกมาเพื่อช่วยย่อยไขมัน ทำให้ไขมันแตกตัวจับกับน้ำย่อยตามระบบย่อยอาหารของร่างกาย โดยต้นทางของน้ำดี จะถูกผลิตมาจากตับและเก็บไว้ในถุงน้ำดี ซึ่งในน้ำดีมีส่วนประกอบหลายอย่าง หากองค์ประกอบของน้ำดีมีความไม่สมดุล จะทำให้เกิดการตกตะกอนเป็นก้อนนิ่วอยู่ในถุงน้ำดี หลังจากที่มีนิ่วในถุงน้ำดีอาจมีอาการผิดปกติตามมา เช่น
อาการที่พบได้
- ท้องอืด
- แน่นท้อง อาหารไม่ย่อยหลังทานอาหารไขมันสูง เป็นๆ หายๆ เรื้อรัง
- ปวดใต้ลิ้นปี่/ชายโครงด้านขวา
- คลื่นไส้อาเจียน มีไข้หนาวสั่น
- ดีซ่านตาเหลือง ตัวเหลือง
สาเหตุเกิดจาก
- ความอ้วน จะเกิดนิ่วที่มีคอเลสเตอรอล
- ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนจากการรับประทานหรือตั้งครรภ์ทำให้ระดับคอเลสเตอรอลในน้ำดีสูง
- การรับยาลดไขมันบางชนิดทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีสูง
- ผู้ป่วยโรคเบาหวานที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลิน
- การลดน้ำหนักที่เร็วเกินไป ทำให้คอเลสเตอรอลในน้ำดีมีความเข้มข้นสูงขึ้น
เพราะฉะนั้นหากเคยมีอาการของภาวะต่าง ๆ เหล่านี้ หรือข้อบ่งชี้อื่น ๆ เช่นมีความผิดปกติของถุงน้ำดี นิ่วมีขนาดใหญ่มากกว่า 1 – 2 ซม. ตรวจพบติ่งเนื้อในถุงน้ำดีร่วมกับนิ่ว หรือเป็นผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับโรคเลือดบางชนิด ควรได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด ซึ่งปัจจุบันการผ่าตัดรักษานิ่วในถุงน้ำดี จะใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้อง ทำให้มีแผลขนาดเล็กประมาณ 5 มม. – 1 ซม. เจ็บตัวน้อย ฟื้นตัวเร็ว กลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ไว
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป
โทร. 02-734-0000 ต่อ 4500, 4501
Readers’ Rating
1.0 out of 5 stars (based on 1 review)
