ต่อมลูกหมากโต โรคฮิตของผู้ชายวัยเกษียณ รักษาได้โดยไม่ต้องผ่าตัด
ในช่วงวัยกลางคนจนถึงวัยสูงอายุ ผู้ชายจำนวนไม่น้อยต้องเผชิญกับปัญหาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะบ่อย

A: โรคต่อมลูกหมากโต (Benign Prostatic Hyperplasia – BPH) คือภาวะที่ต่อมลูกหมากของผู้ชายมีขนาดใหญ่ผิดปกติ ต่อมลูกหมากอยู่ใต้กระเพาะปัสสาวะและล้อมรอบท่อปัสสาวะ เมื่อโตขึ้นจะกดทับท่อปัสสาวะ ทำให้เกิดปัญหาการปัสสาวะ เช่น ปัสสาวะขัด ปัสสาวะไม่พุ่ง หรือปัสสาวะบ่อย แม้โรคนี้ไม่ใช่มะเร็งและไม่พัฒนาเป็นมะเร็ง แต่สามารถส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตได้มาก
A: สาเหตุที่แท้จริงยังไม่ชัดเจน แต่ปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ อายุที่มากขึ้น (โดยเฉพาะเกิน 50 ปี) รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งสถิติพบว่า ผู้ชายอายุ 60 ปีมีโอกาสเป็นโรคนี้กว่า 50% และในวัย 70 ปีขึ้นไปพบสูงถึง 80%
A: อาการแบ่งเป็น 2 กลุ่ม ได้แก่
หากปล่อยไว้นานอาจเกิด การติดเชื้อ นิ่วในกระเพาะปัสสาวะ หรือภาวะไตเสื่อม
A: แพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกายร่วมกับการตรวจเพิ่มเติม เช่น ตรวจปัสสาวะ ตรวจเลือด (PSA: Prostate-Specific Antigen) ตรวจคลื่นเสียงผ่านทวารหนัก (TRUS) ตรวจอัตราการไหลของปัสสาวะ (Uroflowmetry) และตรวจปริมาณปัสสาวะคงค้างหลังถ่าย
A: มีหลายแนวทาง ขึ้นกับความรุนแรงของอาการ ได้แก่
A: ปัจจุบันมีเทคนิคใหม่ที่เรียกว่า PAE (Prostatic Artery Embolization) เป็นหัตถการทางรังสีร่วมรักษา โดยแพทย์จะสอดสายสวนผ่านหลอดเลือดที่ขาหนีบหรือข้อมือ แล้วฉีดสารอุดหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงต่อมลูกหมาก ส่งผลให้ต่อมลูกหมากค่อย ๆ หดตัวลงโดยต่อมลูกหมากจะเริ่มหดตัวภายใน 1–3 เดือนอาการต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการปัสสาวะจะดีขึ้นอย่างชัดเจนใน 5–6 เดือน โดยพบว่าผู้ป่วยกว่า 75–80% ปัสสาวะคล่องขึ้น ลดการปัสสาวะบ่อยและปวดขัด
A: ไม่ต้องผ่าตัดใหญ่ ไม่มีแผล ฟื้นตัวเร็ว สมรรถภาพทางเพศได้รับผลกระทบน้อย กลับบ้านได้ภายในวันเดียว
A: หากเริ่มมีอาการปัสสาวะผิดปกติ เช่น ปัสสาวะขัด บ่อยเกินไป หรือปัสสาวะไม่สุด ควรเข้ารับการตรวจประเมินโดยแพทย์ เพื่อพิจารณาวางแผนการรักษาที่เหมาะสมและป้องกันภาวะแทรกซ้อน
ศูนย์โรคทางเดินปัสสาวะ และศูนย์สุขภาพเพศชาย โรงพยาบาลเวชธานีอินเตอร์เนชั่นแนล
โทร 02-734-0000
ศัลยศาสตร์
ศัลยศาสตร์ทางเดินปัสสาวะ