ไวรัสตับอักเสบ ปล่อยไว้นาน อาจลุกลามจนเกิด มะเร็งตับ
ไวรัสตับอักเสบทำลายเซลล์ตับ เสี่ยงตับแข็งและมะเร็งตับ แม้ไม่มีอาการ ตรวจเช็กก่อนสายเกินไป
คุณเคยมีอาการท้องอืด แต่หาสาเหตุไม่ได้หรือเปล่า ? บางคนอาจจะเป็นนาน ๆ ครั้ง บางคนเป็นบ่อย ๆ หรือเป็นทุกครั้งหลังรับประทานอาหาร อาการท้องอืดสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ทั้งปัญหาสุขภาพ หรือเกิดจากพฤติกรรมการรับประทานอาหาร โดยในผู้ที่มีอาการท้องอืดทั่วไป เป็นบางครั้งบางคราว อาจเป็นสาเหตุมาจาก
- การพูดคุย การอ้าปาก พูดคุย หัวเราะ หรือแม้กระทั่งหายใจทางปาก เพราะมีอากาศอยู่ในท้องมีมากเกินไป อาจทำให้มีอาการท้องอืด หรือสะอึกได้ ซึ่งเป็นเรื่องปกติไม่ส่งผลอันตรายใด ๆ
- พฤติกรรมการรับประทานอาหาร การรับประทานที่มากหรือเร็วเกินไป การทานอาหารที่มีรสจัดหรืออาหารหมักดอง รวมทั้งการทานอาหารย่อยยาก อาหารที่มีความมันมากๆ
- ดื่มเครื่องดิ่มที่มีแก๊ส เช่น น้ำอัดลม เบียร์ จะทำให้เกิดการสะสมแก๊สในกระเพาะอาหารมาก จะทำให้มีอาการท้องอืดได้
แต่ถ้ามีอาการท้องอืดเรื้อรัง เป็นบ่อย ๆ อาจมาจากปัญหาสุขภาพได้ดังนี้
- ท้องอืดเกิดจากโรคทางเดินอาหาร เช่น โรคแผลในกระเพาะอาหาร กระเพาะอาหารอักเสบจากเชื้อแบคทีเรีย H. pylori มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
- ภาวะขาดเอนไซม์ย่อยนม แพ้สารอาหารประเภทนม ในบางคนไม่สามารถย่อยนมได้ เมื่อดื่มเข้าไปมาก ทำให้เกิดอาหารท้องอืด หรือท้องเสียได้
- มีแก๊สในทางเดินอาหารมากเกินไปจากภาวะแบคทีเรียเกินในลำไส้เล็ก
ดังนั้น หากมีอาการท้องอืดบ่อย ๆ แม้ว่าปรับพฤติกรรมการรับประทานแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรมาพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุของอาการท้องอืดเรื้อรัง เช่น การส่องกล้องทางเดินอาหาร การตรวจหาภาวะแบคทีเรียมากเกินปกติในลำไส้เล็กด้วยเครื่องตรวจลมหายใจ Hydrogen Breath Test ที่สามารถให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน โดยอาศัยหลักการตรวจหาก๊าซที่ผลิตจากแบคทีเรียในทางเดินอาหาร ซึ่งจะซึมผ่านเข้ากระแสเลือด และปล่อยออกทางลมหายใจ โดยก๊าซที่ตรวจนั้น ได้แก่ ก๊าซไฮโดรเจน และก๊าซมีเทน เมื่อได้รับการวินิจฉัยถึงสาเหตุที่แน่ชัดแล้ว ผู้ป่วยก็จะได้รับการรักษาที่ถูกต้องเหมาะสมตามมา
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศูนย์โรคระบบทางเดินอาหารและตับ โทร. 0-2734-0000 ต่อ 2960
Medically Reviewed by
นพ. สุขประเสริฐ จุฑากอเกียรติ
อายุรศาสตร์
อายุรศาสตร์โรคระบบทางเดินอาหาร
Readers’ Rating
2.5 out of 5 stars (based on 28 reviews)
