นอนกรนบ่อย ต้องตรวจ Sleep Test ไหม? - โรงพยาบาลเวชธานี

บทความสุขภาพ

นอนกรนบ่อย ต้องตรวจ Sleep Test ไหม?

Share:

Q: การนอนกรนคืออะไร และอันตรายอย่างไร?

A: หลายคนมองว่าการนอนกรนเป็นแค่ปัญหาเสียงรบกวน แต่ในความจริงอาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะผิดปกติที่ซ่อนอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ภาวะหยุดหายใจขณะหลับจากการอุดกั้น (Obstructive Sleep Apnea: OSA) ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษา อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง หรือโรคหลอดเลือดสมอง

Q: สาเหตุของการนอนกรนมีอะไรบ้าง?

A: การนอนกรนสามารถเกิดได้กับทุกคนโดยมีสาเหตุจากหลายปัจจัย เช่น ความเหนื่อยล้าสะสม  การดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน  น้ำหนักเกิน ภาวะคัดจมูกจากภูมิแพ้  ภาวะเหล่านี้อาจทำให้การหายใจติดขัด และเกิดเสียงกรนตามมา 

Q: อาการของภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีอะไรบ้าง?

A: จะมีอาการนอนกรนเสียงดังเป็นประจำ สะดุ้งตื่นกลางดึกเหมือนหายใจไม่ออก ตื่นมาแล้วรู้สึกปากแห้ง เจ็บคอ ปวดศีรษะโดยไม่ทราบสาเหตุ ง่วงนอนผิดปกติในเวลากลางวัน สมาธิลดลงและประสิทธิภาพการทำงานลดลง

Q: ภาวะหยุดหายใจขณะหลับ (OSA) เกิดจากอะไร?

A: เกิดจากความผิดปกติของอวัยวะในทางเดินหายใจ เช่น ลิ้น ผนังคอหอย หรือช่องคอ ทำให้ทางเดินหายใจแคบหรืออุดกั้น ส่งผลให้การหายใจขณะหลับสะดุดหรือหยุดชั่วขณะ ซึ่งเป็นอันตรายต่อสุขภาพ

Q: ตรวจ Sleep Test ทำอะไรบ้าง?

A: ปัจจุบันมีเทคโนโลยีทางการแพทย์ที่ช่วยตรวจวินิจฉัยการนอนหลับ (Sleep Test) เพื่อแยกว่าเป็นการนอนกรนประเภทใด และสามารถบอกความรุนแรงของโรคได้ว่า มีภาวะหยุดหายใจขณะหลับมากหรือไม่และตรวจการหายใจที่สัมพันธ์กับการทำงานของหัวใจและสมองขณะหลับ โดยมีรายละเอียดการตรวจดังนี้

  • ตรวจวัดคลื่นสมอง เพื่อวัดระดับความลึกของการนอนหลับ และการตรวจวัดการทำงานของกล้ามเนื้อขณะหลับ ว่าหลับได้สนิทแค่ไหน ประสิทธิภาพการนอน คลื่นสมองผิดปกติเช่นลมชักขณะหลับ
  • การตรวจดูการเปลี่ยนแปลงของคลื่นไฟฟ้าหัวใจขณะหลับ เพื่อดูว่าหัวใจมีการเต้นผิดจังหวะที่อาจมีอันตรายได้หรือไม่
  • การตรวจวัดความอิ่มตัวของระดับออกซิเจนในเลือดแดงขณะหลับ เพื่อดูว่าร่างกายมีการขาดออกซิเจนหรือไม่ในขณะหลับ และหยุดหายใจหรือหายใจเบาหรือไม่
  • การตรวจวัดลมหายใจ ที่ผ่านเข้าออกทางจมูกและปาก และการตรวจวัดการเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อทรวงอกและกล้ามเนื้อหน้าท้องที่ใช้ในการหายใจ ดูว่ามีการหยุดหายใจหรือไม่ เป็นชนิดไหน ผิดปกติมากน้อยแค่ไหน
  • ตรวจเสียงกรน เพื่อดูว่ากรนจริงหรือไม่ กรนดังแค่ไหน กรนตลอดเวลาหรือไม่ กรนขณะนอนท่าไหน
  • การตรวจท่านอน ในแต่ละท่านอนมีการกรน หรือการหายใจผิดปกติแตกต่างกันอย่างไร

Q: Sleep Test มีความสำคัญอย่างไร?

A: Sleep Test จะช่วยบอกคุณภาพการนอน และวิเคราะห์ความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ หากพบความผิดปกติ แพทย์จะสามารถแนะนำแนวทางการรักษาที่เหมาะสมได้ทันที

Q: แนวทางการรักษาภาวะหยุดหายใจขณะหลับมีอะไรบ้าง?

A: แนวทางรักษาแบ่งได้เป็น 2 ส่วนหลัก:

  •  ปรับพฤติกรรมและไลฟ์สไตล์ เริ่มด้วยการลดน้ำหนัก เปลี่ยนท่านอน หลีกเลี่ยงการนอนหงายเพราะจะทำให้เกิดการอุดกั้นทางเดินหายใจได้ง่าย หลีกเลี่ยงยาและเครื่องดื่มที่มีฤทธิ์กดประสาทส่วนกลาง เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยานอนหลับ ยากล่อมประสาท ยาแก้แพ้ เป็นต้น
  • การใช้เครื่องช่วยหายใจ CPAP ซึ่งเป็นวิธีการรักษามาตรฐานที่มีประสิทธิภาพสูงถึง 90-99%
  • การผ่าตัดในผู้ป่วยบางราย อาจช่วยแก้ไขการหยุดหายใจทำให้ไม่ต้องกลับไปใช้หรือลดการใช้เครื่อง CPAP ลงได้ ซึ่งการผ่าตัดปัจจุบันมีหลายวิธี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของภาวะหยุดหายใจขณะหลับ และโครงสร้างความผิดปกติของโครงหน้า จมูก และปากของแต่ละคน
  • การใส่อุปกรณ์ทันตกรรม (Oral appliance) ช่วยดึงลิ้นและกรามบางส่วนมาข้างหน้า เพื่อลดการอุดกั้นของทางเดินหายใจขณะหลับ 

Q: หากไม่รักษาการนอนกรน อาจเกิดผลกระทบอย่างไร?

A: หากปล่อยไว้โดยไม่รักษา อาจเสี่ยงต่อภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ ความดันโลหิตสูง อัมพาต หรือแม้แต่เสียชีวิตในกรณีรุนแรง การตรวจและรักษาแต่เนิ่น ๆ จะช่วยป้องกันภาวะแทรกซ้อน และฟื้นฟูคุณภาพการนอนให้กลับมาเป็นปกติได้

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

ศูนย์สมองและระบบประสาท โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000

  • Readers Rating
  • Rated 5 stars
    5 / 5 (3 )
  • Your Rating