ดื่มน้ำหวานบ่อยเพิ่มความเสี่ยง นิ่วในไต
ดื่มน้ำหวานแทนน้ำเปล่า เสี่ยงนิ่วในไตโดยไม่รู้ตัว เช็กอาการ วิธีรักษา และการป้องกันที่ถูกต้อง
โรคอัณฑะบิดหมุน (Testicular Torsion) เป็นภาวะฉุกเฉินทางเพศชายที่พบได้บ่อยในวัยรุ่นและเด็กชาย เกิดขึ้นเมื่อ หลอดเลือดที่มาเลี้ยงลูกอัณฑะบิดเกลียว ส่งผลให้เลือดไปเลี้ยงอัณฑะไม่ได้ เกิดอาการปวดอย่างรุนแรง บวมแดง และอาจสูญเสียเนื้อเยื่ออัณฑะได้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที
สาเหตุ ของอัณฑะบิดหมุน ยังไม่ทราบแน่ชัด แต่คาดว่าอาจเกี่ยวข้องกับปัจจัยดังต่อไปนี้
- ติ่งเนื้อที่ถุงอัณฑะ อาจทำให้หลอดเลือดบิดเกลียวได้ง่ายขึ้น
- พันธุกรรม เด็กชายที่มีพี่น้องหรือพ่อเป็นโรคอัณฑะบิดหมุน มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นโรคนี้
- ความผิดปกติของถุงอัณฑะ ถุงอัณฑะที่หย่อนคล้อยหรือมีขนาดเล็ก อาจทำให้หลอดเลือดบิดเกลียวได้ง่ายขึ้น
อาการของอัณฑะบิดหมุน มักเกิดขึ้นอย่างเฉียบพลัน โดยมีอาการดังต่อไปนี้
- รู้สึกเจ็บปวดรุนแรงในถุงอัณฑะข้างใดข้างหนึ่งขึ้นเฉียบพลัน อาการปวดมักคงที่เท่าๆ เดิม ไม่มีอะไรที่ทำให้อาการปวดลดลง
- อัณฑะข้างที่ปวดจะมีอาการบวมขึ้น
- คลื่นไส้และอาเจียน
- บางครั้งอาจปวดร้าวขึ้นไปที่ขาหนีบและช่องท้องข้างเดียวกันได้
เมื่อเกิดภาวะอัณฑะบิดขั้วแพทย์จะทำการรักษาด้วยการผ่าตัดทันที เพื่อรักษาลูกอัณฑะไว้ หากปล่อยให้เกิดภาวะนี้นานเกินกว่า 4 ชม. อาจส่งผลให้ลูกอัณฑะเกิดความเสียหายอย่างถาวร และ ต้องตัดลูกอัณฑะทิ้งไปในที่สุด
ทั้งนี้หากมีอาการปวดอัณฑะมากๆ อย่างฉับพลัน และปวดตลอดเวลา ให้รีบมาโรงพยาบาลโดยด่วน เพื่อเข้ารับการรักษาอย่างทันท่วงที
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม
ศัลยกรรมทางเดินปัสสาวะและศูนย์สุขภาพเพศชาย โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-7340000 ต่อ 4500, 4501
Medically Reviewed by
Readers’ Rating
1.0 out of 5 stars (based on 1 review)
