ประจำเดือนผิดปกติ อาจเป็นสัญญาณของติ่งเนื้อในโพรงมดลูก?
ประจำเดือนผิดปกติ ไม่ได้เกิดจากฮอร์โมนเพียงอย่างเดียว แต่อาจเป็นสัญญาณเตือนของภาวะติ่งเนื้อในโพรงมดลูก
สารพันความกังวลใจของคุณแม่ หลังพบปัญหาเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกขณะตั้งครรภ์ ล้วนเกิดเป็นนานาคำถามที่ต้องการคำตอบ ว่าควรรับมืออย่างไร ปฏิบัติตัวแบบไหน เพื่อให้ลูกน้อยในครรภ์สามารถลืมตาดูโลกได้อย่างปลอดภัย
ความจริงแล้ว ผู้หญิงเกือบ 50% มีเนื้องอกกล้ามเนื้อ (Leiomyoma หรือ Uterine Fibroid) เพียงแต่อาจจะไม่มีอาการ หรือไม่เคยตรวจมาก่อน จึงมักพบเนื้องอกนี้ครั้งแรกเมื่อตรวจอัลตราซาวนด์ขณะตั้งครรภ์
โดยการอัลตราซาวนด์ระหว่างตั้งครรภ์ไตรมาสแรก เป็นช่วงที่สามารถเห็นเนื้องอกในทุกตำแหน่งได้ง่ายที่สุด เนื่องจากมดลูกยังมีขนาดเล็ก เมื่อมดลูกและทารกมีขนาดโตขึ้นตามอายุครรภ์ที่มากขึ้น การอัลตราซาวนด์เพื่อตรวจดูก้อนเนื้องอกก็จะค่อนข้างจำกัด
อันตราย หรือภาวะแทรกซ้อน ที่อาจเกิดขึ้นได้จากเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ตำแหน่งของก้อน ขนาดของก้อน รวมถึงปัจจัยเสี่ยงเสริมอื่น ๆ ผู้หญิงตั้งครรภ์ที่มีเนื้องอกมดลูกในแต่ละราย จึงมีอาการแสดง และภาวะแทรกซ้อนที่แตกต่างกัน โดยภาวะที่พบได้บ่อย ได้แก่
นอกเหนือจากการดูแลครรภ์ตามปกติแล้ว คุณแม่ควรหมั่นสังเกตอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้น เช่น หากมีอาการปวดที่ก้อนมาก ๆ อาจต้องใช้ยาช่วย แต่ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง ควรปรึกษาแพทย์ หรือหากมีอาการมดลูกหดรัดตัวก่อนกำหนด ต้องรีบพบแพทย์ทันทีเพื่อประเมินความเสี่ยงต่อการคลอดก่อนกำหนด โดยอาจต้องนอนโรงพยาบาลเพื่อยับยั้งการคลอดตามความเหมาะสม นอกจากนี้ คุณแม่ต้องมาฝากครรภ์สม่ำเสมอตามแพทย์นัด เพื่อติดตามสุขภาพของทารก และขนาดของเนื้องอกเป็นระยะ


หากก้อนเนื้องอก ไม่ได้อยู่ในตำแหน่งขวางช่องทางคลอด คุณแม่สามารถคลอดด้วยวิธีธรรมชาติ โดยต้องเฝ้าระวังภาวะตกเลือดหลังคลอด และภาวะมดลูกไม่หดรัดตัวอย่างใกล้ชิด
ขณะตั้งครรภ์มดลูกของคุณแม่จะมีเลือดมาเลี้ยงปริมาณมาก โดยเส้นเลือดที่เคยมีขนาดเล็กจะขยายใหญ่ขึ้น การผ่าตัดจะทำให้เสียเลือดมากซึ่งไม่เป็นผลดี ฉะนั้นแพทย์จึงไม่แนะนำให้ผ่าเนื้องอกออกพร้อมกับผ่าคลอด นอกจากกรณีจำเพาะบางอย่าง
ส่วนใหญ่แล้ว เนื้องอกมักมีขนาดเล็กลงหลังคลอดแต่ไม่ได้หายไป เพราะไม่มีฮอร์โมนกระตุ้น หากไม่มีอาการของประจำเดือนผิดปกติ และอัลตราซาวนด์ติดตามอาการแล้วก้อนไม่โตขึ้น ก็อาจไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
อย่างไรก็ดี การดูแลตัวเองตามที่แพทย์แนะนำ และพบแพทย์เพื่อติดตามสุขภาพของทารก และขนาดของเนื้องอก อย่างสม่ำเสมอตามแพทย์นัด ถือเป็นหัวใจหลักในการรับมือกับภาวะเนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูกขณะตั้งครรภ์ได้อย่างมั่นใจ


สูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา
สูติ-นรีเวชวิทยา - เวชศาสตร์มารดาและทารกในครรภ์