โรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท หลายคนมักจะกังวลว่าหากมาพบแพทย์เฉพาะทางแล้วจะต้องผ่าตัดเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาทมีวิธีการรักษาหลากหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับอาการและระดับความรุนแรงของโรค

อาการปวดหลังส่วนใหญ่มักเกิดใน 3 ลักษณะด้วยกัน ลักษณะ1 อาการตึง หดเกร็ง หรือฉีกขาดของกล้ามเนื้อส่วนหลังบางส่วน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ยกของหนักหรือยกในท่วงท่าที่ไม่เหมาะสม การเคลื่อนไหวที่ผิดท่าทางไปจากเดิมอย่างกะทันหัน

กระดูกสันหลังคด คือ ภาวะการบิดหมุนของกระดูกสันหลัง และไม่อยู่ในแนวตรง หรือบิดเป็นตัว S หรือ C ก็ได้ครับ ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเจริญเติบผิดปกติตั้งแต่กำเนิด กรรมพันธุ์ หรือกระดูกสันหลังเสื่อมตามวัยได้ ซึ่งการนั่งไขว่ห้างไม่ได้ทำให้กระดูกสันหลังคดได้ถาวร

กิจกรรมที่ผู้เป็นกระดูกสันหลังคดควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจทำให้กระดูกสันหลังคดมากขึ้น หรือมีอาการปวดหลังตามได้ ! มีดังนี้ กิจกรรมที่มีการกระแทกต่อกระดูกสันหลังโดยตรง

อาการปวดหลัง เป็นอาการของโรคต่าง ๆ มากมาย ดังนี้ ปวดเหนือบั้นเอวทั้งสองข้าง มักจะเป็นอาการที่เกิดจากความผิดปกติจากอวัยวะอื่นที่ส่งผลต่อการทำงานของไต

สาเหตุหลักที่ทำให้กระดูกสันหลังเคลื่อนกดทับเส้นประสาทแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุ มักเกิดจากความเสื่อมของแนวกระดูกสันหลัง ทั้งบริเวณข้อต่อและหมอนรองกระดูกสันหลัง ทำให้แนวกระดูกสันหลังไม่มั่นคงและเคลื่อนจนไปกดทับเส้นประสาท

เคยสงสัยไหมว่าทำไมถึงปวดหลังบ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นช่วงกลางหลัง หลังส่วนเอว หรือบางคนอาจมีอาการปวดลงไปถึงเข่าแต่ก็หาสาเหตุไม่ได้ โดยอาการปวดหลังเรื้อรังเช่นนี้อาจเกิดจากความไม่สมดุลของร่างกายเนื่องจากโรคกระดูกสันหลังคด

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน (Lumbar Disc Herniation) เป็นโรคที่พบบ่อยในคนที่หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เพราะเมื่ออายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกซึ่งเป็นหนึ่งในข้อต่อของกระดูกสันหลังจะเริ่มเสื่อมตามอายุ โดยส่วนมากจะเริ่มที่อายุประมาณ 25-30 ปี

กระดูกสันหลังคดเป็นโรคที่พบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ส่วนมากเป็นตั้งแต่วัยเด็กและเห็นชัดขึ้นเมื่อเข้าสู่วัยเจริญเติบโต ซึ่งนอกจากกรรมพันธุ์แล้ว พฤติกรรมการนั่งหรือนอนที่ผิดท่าบ่อย ๆ ก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ความคดเพิ่มมากขึ้นได้