หลายคนมักเข้าใจว่ากระดูกคอเสื่อมเป็นโรคที่เกิดจากความเสื่อมตามวัยเท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วพฤติกรรมการใช้งานคอผิดท่าต่อเนื่องเป็นเวลานานและทำเป็นประจำ อย่างเช่น การก้ม แหงน หรือสะบัดคอแรง ๆ บ่อย ๆ ก็เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้กระดูกคอเสื่อมเร็วขึ้นได้

อาการปวดหลัง มองเผินๆ เป็นอาการทั่วไปของผู้ที่ทำงานออฟฟิศ หรือผู้ที่ต้องทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นระยะเวลานาน ทำให้เข้าใจว่าเป็นกลุ่มอาการของโรคออฟฟิศซินโดรม แต่เมื่อไหร่ก็ตามที่มีอาการปวดหลังร่วมกับอาการปวดร้าวลงขา อาจเกิดจากหมอนรองกระดูกเสื่อม และปลิ้นออกมาทับเส้นประสาท ซึ่งจะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการดังนี้

กระดูกสันหลังตีบแคบ เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ เพราะสาเหตุของโรคเกิดจากความเสื่อมสภาพของกระดูกสันหลัง ตั้งแต่หมอนรองกระดูก เส้นเอ็น ตลอดจนข้อต่างๆ ภายในร่างกาย โดยโพรงกระดูกจะตีบแคบมากขึ้นเมื่ออายุเพิ่มขึ้น

อาการปวดหลังส่วนบนและอาการปวดคอ มักเกิดจากท่าทางและพฤติกรรมในการใช้ชีวิตประจำวันที่ไม่เหมาะสม เช่น นั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน การก้มหน้าเล่นแท็บเลต แต่ยังมีสาเหตุอื่น ๆ ที่ทำปวดหลังส่วนบนและปวดได้เช่นกัน

แม้ว่าการออกกำลังกายจะช่วยให้สุขภาพแข็งแรง แต่ถ้าออกกำลังกายผิดวิธี ผิดท่าหรือไม่เหมาะสม อาจเสี่ยงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร่างกายได้

พฤติกรรมการใช้ชีวิตในแต่ละวัน ทั้งการนั่ง การนอนหรือยกของหนักในท่าที่ไม่ถูกต้อง ล้วนเป็นการทำร้ายกระดูกสันหลัง แต่ถ้ารู้จักดูแลและปฏิบัติตัวให้ถูกต้อง จะช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับกระดูกสันหลังได้ในอนาคต

หากมีอาการเหล่านี้ควรรีบพบแพทย์เฉพาะทาง ถ้าอาการยังไม่รุนแรงแพทย์อาจพิจารณารักษาด้วยการใช้ยาแก้ปวด กายภาพบำบัด และปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต แต่ถ้าอาการยังไม่ดีขึ้นภายใน 4 – 6 สัปดาห์ หรือโรคอยู่ในระยะที่รุนแรงแล้วอาจต้องใช้วิธีผ่าตัด

โรคกระดูกสันหลังทรุด เกิดจากความเสื่อมสภาพของหมอนรองกระดูกสันหลังตามอายุที่มากขึ้น จนทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังยุบตัวลงเรื่อย ๆ และกดทับเส้นประสาท หรืออาจมีภาวะหมอนรองกระดูกปลิ้นทับเส้นประสาทได้เช่นกัน สำหรับการรักษาโรคกระดูกสันหลังทรุดนั้นไม่จำเป็นต้องผ่าตัดเสมอไป

โรคหมอนรองกระดูกเคลื่อน (Lumbar Disc Herniation) เป็นโรคที่พบบ่อยในคนที่หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม เพราะเมื่ออายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกซึ่งเป็นหนึ่งในข้อต่อของกระดูกสันหลังจะเริ่มเสื่อมตามอายุ