อย่าปล่อยให้ “ โรคกระดูกพรุน ” คุกคามร่างกายโดยไม่รู้ตัว
ข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกระบุว่า “ โรค กระดูกพรุน ” เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญต่อผู้สูงอายุมากที่สุด ซึ่ง เกิดจากความหนาแน่นของมวลกระดูกลดลง โครงสร้างของกระดูกบาง กระดูกมีความแข็งแรงน้อยลง ส่งผลให้มีโอกาสเปราะหักง่าย
ส่วนใหญ่ โรค กระดูกพรุน จะทำให้กระดูกสำคัญหักง่ายกว่าปกติ โดยเฉพาะกระดูกสันหลัง ข้อสะโพก ข้อมือ และต้นแขน ทั้งนี้โรค กระดูกพรุน มักไม่มีสัญญาณเตือนใด ๆ ล่วงหน้ามาก่อน จึงนับว่าเป็น “ ภัยเงียบ ” ที่คุกคามร่างกายโดยไม่รู้ตัว
สาเหตุหลักของภาวะกระดูกพรุน
สาเหตุของ โรค กระดูกพรุน เกิดจากภาวะที่ร่างกายขาดสารตั้งต้น ในการเสริมสร้างกระดูกที่สำคัญ ได้แก่
ขาดแคลเซียม หรือภาวะแคลเซียมน้อย
การขาดสารอาหาร และวิตามินดี ที่ร่างกายต้องการ
ขาดฮอร์โมนเอสโตรเจน จากภาวะหมดประจำเดือนในผู้หญิง
ออกกำลังกายน้อยเกินไป
โดยกลุ่มเสี่ยงของโรคกระดูกพรุน มักพบในผู้สูงอายุและสตรีวัยใกล้หมดประจำเดือน แต่หากพบโรคกระดูกพรุนในกลุ่มคนที่มีอายุน้อยมักมีสาเหตุมาจากการมีโรคประจำตัว เช่น โรคที่เกี่ยวข้องกับเลือด โรคที่ส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อการสร้างกระดูก และโรคทางพันธุกรรม ซึ่งกรณีนี้ไม่ได้เกิดจากภาวะกระดูกเสื่อมแต่เป็นเพราะการสร้างกระดูกผิดปกติ ที่อาจจะส่งผลให้เกิดโรคกระดูกพรุน ได้เช่นกัน
เหตุใด “กระดูกพรุน” จึงเป็นภัยเงียบ
โรคกระดูกพรุน นับเป็นภัยเงียบที่คุกคามร่างกายโดยไม่รู้ตัว เนื่องจากโรคกระดูกพรุนไม่มีอาการเตือนใด ๆ ให้ระวัง จะทราบก็ต่อเมื่อกระดูกหักแล้ว หรือกระดูกสันหลังทรุด ซึ่งทำให้ปวดหลัง หลังค่อม ดูเตี้ยลง เคลื่อนไหวได้ลดลง นอกจากนี้ ผู้ป่วยโรคกระดูกพรุนบางราย อาจมีภาวะอาการฟันหลุดได้ง่ายอีกด้วย
5 วิธีสำคัญ เสริมสร้างกระดูกให้แข็งแรงหลีกเลี่ยงอาการกระดูกพรุน
เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และสารอาหารที่ให้แคลเซียมสูงและวิตามินดีสูง ออกกำลังกายสม่ำเสมอ สร้างความแข็งแรงให้ร่างกาย กระตุ้นให้กระดูกมีการสะสมแคลเซียมมากขึ้น งดเว้นการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และงดสูบบุหรี่ ควรรับแสงแดดอ่อน ๆ โดยเฉพาะในช่วงเช้า หรือช่วงเย็น เพื่อกระตุ้นการสร้างวิตามินดีที่มีคุณภาพ เพื่อดึงแคลเซียมไปใช้ในการสร้างมวลกระดูก หมั่นดูแลสุขภาพจิตให้สดใสแข็งแรงควบคู่กับสุขภาพกาย
3 ข้อสังเกตบ่งชี้ภาวะกระดูกพรุน
ส่วนสูงลดลง หลังค่อมขึ้น กระดูกหักง่าย
เราสามารถทราบภาวะกระดูกพรุนได้จากการตรวจสุขภาพประจำปี ซึ่งมีการตรวจความหนาแน่นมวลกระดูก (DXA) โดยตรวจที่กระดูกสันหลังระดับเอว และข้อสะโพก ร่วมกับเจาะเลือดตรวจหาระดับแคลเซียมและวิตามินดี
ส่วนวิธีการรักษา โรคกระดูกพรุน นั้น ปัจจุบันยังไม่มีวิธีการรักษาแบบเฉพาะ เป็นเพียงการชะลอการเสื่อมหรือป้องกันการสูญเสียมวลกระดูกด้วยการใช้ยา เช่น แคลเซียม วิตามินดี และยาลดการทำลายกระดูก ซึ่งยาลดการทำลายกระดูกเป็นยาที่ต้องใช้ภายใต้คำแนะนำของแพทย์เท่านั้น ไม่ควรซื้อยารับประทานเอง นอกจากนั้นยังมีการให้ฮอร์โมนทดแทน รวมไปถึงการระมัดระวังไม่ให้เกิดอุบัติเหตุ หรือการหกล้ม ที่อาจจะมีโอกาสทำให้กระดูกหักได้
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ศูนย์กระดูกและข้อ โรงพยาบาลเวชธานี โทร 02-734-0000 ต่อ 2298
Medically Reviewed by
นพ. เปรมเสถียร ศิริธนาพิพัฒน์
ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ
ศัลยศาสตร์กระดูกและข้อ - การผ่าตัดข้อเข่าและข้อสะโพกเทียม
Readers’ Rating
0.0 out of 5 stars (based on 0 reviews)