Search results for: cancer

ตรวจยีนค้นหาความเสี่ยงมะเร็ง เพื่อการป้องกันมะเร็ง และ รักษามะเร็งที่ตรงจุด

[…] มักจะเป็นที่อวัยวะทั้ง 2 ข้าง และมีโอกาส เกิดมะเร็งหลายชนิดในร่างกาย มีประวัติบุคคลในครอบครัวเป็นมะเร็งหลายคน การกลายพันธุ์ที่เกิดขึ้นภายหลัง (Somatic mutation) หมายถึง การกลายพันธุ์ของยีนที่เกิดมาภายหลังจากปฏิสนธิแล้ว การกลายพันธ์อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมภายนอก เช่น รังสีเอกซเรย์ การสูบบุหรี่ การรับสารพิษต่าง ๆ เป็นต้น ทำให้เกิดความเสียหายต่อยีนแล้วทำให้เกิดการกลายพันธ์เกิดขึ้น หรือเกิดจากเซลล์ปกติในร่างกายที่มีการแบ่งตัวเพื่อซ่อมแซมเป็นปกติอยู่แล้ว เกิดการแบ่งตัวผิดพลาดในระดับยีน ทำให้เกิดการกลายพันธ์เป็นยีนก่อมะเร็งขึ้น การที่เซลล์มีการกลายพันธุ์แบบนี้พบได้บ่อย และมักเริ่มแสดงเมื่อมีอายุมากขึ้น แต่จะไม่ส่งต่อความผิดปกติสู่รุ่นลูกรุ่นหลาน การตรวจยีนมะเร็ง (Genetic Cancer Screening) เป็นการตรวจหายีนกลายพันธ์แต่กำเนิด ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการคาดการณ์ ว่าภายในร่างกายของเรามีความยีนที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งมากน้อยแค่ไหน สามารถตรวจได้จากเลือด น้ำลาย และเซลล์กระพุ้งแก้ม แต่การตรวจจากเลือดมีความแม่นยำและน่าเชื่อถือมากที่สุด หากไม่มีความเสี่ยงทางพันธุกรรมในการเกิดมะเร็ง การดูแลสุขภาพจะดำเนินไปตามความจำเป็นของแต่ละช่วงวัย แต่ก็ต้องระวังการเกิดมะเร็งจากปัจจัยอื่น ๆ เช่น กินอาหารผสมสารกันเสีย อาหารปิ้งย่างเขม่าดำ ดื่มเป็นแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่เป็นประจำ สัมผัสสารเคมีอันตรายบ่อยครั้ง ซึ่งโอกาสเกิดมะเร็งอาจมากกว่าการเป็นมะเร็งที่กลายพันธุ์มาจากพันธุกรรม ขณะเดียวกัน หากพบว่ามีความเสี่ยง ก็จะช่วยวางแผนการใช้ชีวิตหรือวางแนวทางการป้องกัน การผ่าตัดก่อนที่จะเป็นมะเร็ง การกินยาเพื่อลดโอกาสเกิดมะเร็งบางชนิด และการลดปัจจัยกระตุ้นที่มาจากสภาพแวดล้อมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ เช่น ถ้าพบมีการกลายพันธ์ […]

10 สัญญาณ “มะเร็งสมอง”

มะเร็งสมอง (Brain cancer) คือเนื้องอกสมองที่เป็นเนื้อร้าย ซึ่งอาจเกิดจากตัวสมองเอง หรือจากการกระจายของมะเร็งจากอวัยวะอื่น มะเร็งชนิดนี้เป็นมะเร็งชนิดที่พบได้ค่อนข้างยาก

มะเร็งต่อมน้ำเหลือง ใกล้ตัวกว่าที่คิด

มะเร็งต่อมน้ำเหลืองเป็นอีกหนึ่งโรคร้ายที่อยู่ใกล้ตัวเรามากๆ เพราะต่อมน้ำเหลืองมีอยู่ทั่วร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น คอ รักแร้ ข้อพับแขน ข้อพับขา ช่องอกหรือช่องท้อง อีกทั้งเซลล์น้ำเหลืองก็ยังอยู่ตามอวัยวะต่างๆ ของร่างกายด้วย ไม่ว่าจะเป็นลำไส้ หรือกระเพาะอาหาร จึงสามารถเกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลืองได้หมดทุกที่ของร่างกาย “ทั้งนี้สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งต่อมน้ำเหลืองยังไม่ทราบแน่ชัด” แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงที่อาจก่อให้เกิดมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ดังนี้ สารเคมี เช่น สารเคมีปราบศัตรูพืช น้ำยาย้อมผม เป็นต้น ภูมิคุ้มกันต่ำ/บกพร่อง เช่น บุคคลที่มีโรคเอดส์ การปลูกถ่ายอวัยวะ และ/หรือ โรคไขข้ออักเสบ เป็นต้น พันธุกรรม เช่น มีประวัติคนในครอบครัวเป็นมะเร็งต่อมน้ำเหลือง ส่วนอาการของมะเร็งต่อมน้ำเหลืองก็คือ คลำพบก้อนในบริเวณต่างๆของร่างกายโดยไม่มีอาการเจ็บที่ก้อน มีไข้ เบื่ออาหาร น้ำหนักลด อ่อนเพลีย ทั้งนี้ก้อนที่พบอาจไม่สามารถบ่งบอกได้ว่าเป็นก้อนมะเร็งเสมอไป ทางที่ดีหากพบสิ่งผิดปกติใดๆก็ควรรีบพบแพทย์โดยเร็วจะดีที่สุด เนื่องจาก “มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มีโอกาสหายขาดได้สูง หากเริ่มรักษาตั้งแต่ยังไม่แพร่กระจาย” โดยการรักษาสามารถทำได้โดยการให้ยาเคมีบำบัด และในบางรายแพทย์อาจพิจารณาใช้การฉายแสงร่วมด้วย ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์มะเร็ง Life Cancer Center โทร. 02-734-0000 ต่อ 2200, 2204

“มะเร็งปอด” ภัยร้ายที่รักษาได้ หากตรวจพบตั้งแต่ระยะต้น

มะเร็งปอด คือ การที่เซลล์ในเนื้อปอดแบ่งตัวมากผิดปกติจนไม่สามารถควบคุมได้ และเติบโตลุกลามรวมกันจนเป็นเนื้องอก ขัดขวางการทำงานของปอด ซึ่งมีหน้าที่หลักในการนำออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย นอกจากนี้ ยังสามารถแพร่กระจายไปยังบริเวณอื่น ๆ ได้ เช่น ตับ สมอง กระดูก โดยความร้ายแรงของมะเร็งปอดขึ้นอยู่กับชนิดของมะเร็ง สามารถแบ่งออกเป็น 2 ชนิดหลัก ๆ ตามขนาดของเซลล์ ประกอบด้วย มะเร็งปอดชนิดไม่ใช่เซลล์เล็ก (Non-Small Cell Lung Cancer) พบได้บ่อยประมาณ 85-90% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดทั้งหมด เซลล์เติบโตและแพร่กระจายช้า สามารถรักษาให้หายได้ หากตรวจพบตั้งแต่เนิ่น ๆ มะเร็งปอดชนิดเซลล์เล็ก (Small Cell Lung Cancer) พบได้ประมาณ 10-15% เซลล์เจริญเติบโตและแพร่กระจายรวดเร็ว ผู้ป่วยสามารถเสียชีวิตได้ในระยะเวลาอันสั้น ปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งปอด การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยหลักที่ก่อให้เกิดโรคมะเร็งปอด ทั้งตัวผู้สูบเองและผู้ได้รับควันบุหรี่มือสอง แต่ยังมีอีกหลากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการได้รับสารพิษและมลภาวะในสิ่งแวดล้อม มีประวัติครอบครัวเป็นมะเร็งปอด และอายุที่เพิ่มขึ้น ล้วนเป็นหนึ่งในสาเหตุของมะเร็งปอดด้วยเช่นกัน อาการแสดง โดยทั่วไปแล้วมะเร็งปอดในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการแสดง […]

Multidisciplinary Team (MDT)

[…] MDT ประกอบด้วยแพทย์เฉพาะทางในแต่ละสาขาที่เกี่ยวข้องกับมะเร็งวิทยา และทีมสหสาขาวิชาชีพ ซึ่งมีหน้าที่ในการดูแลคนไข้ตามความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกัน ดังนี้ ประธานคณะกรรมการ MDT ทำหน้าที่บริหารจัดการทีมแพทย์ เพื่อให้การดูแลคนไข้เป็นไปตามแผนการรักษา อายุรแพทย์เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยา จะเป็นผู้ให้การรักษาทางยาและติดตามผลการรักษา ศัลยแพทย์ทั่วไปและศัลยแพทย์เฉพาะทาง ทำหน้าที่ผ่าตัด และวางแนวทางการผ่าตัดที่เหมาะสม สูตินรีแพทย์ด้านโรคมะเร็ง ทำหน้าที่ผ่าตัดในผู้ป่วยมะเร็งสตรี เช่น มะเร็งรังไข่ มะเร็งปากมดลูก พยาธิแพทย์ ทำหน้าที่ตรวจและวิเคราะห์ชิ้นเนื้อ รังสีแพทย์ด้านการวินิจฉัยภาพรังสี ทำหน้าที่บอกขนาด ตำแหน่ง และระยะของมะเร็ง แพทย์รังสีรักษา ทำหน้าที่วางแผนการรักษาทางรังสี หรือการฉายรังสีให้ผู้ป่วย เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด และเกิดผลข้างเคียงจากการฉายรังสีน้อยที่สุด วิสัญญีแพทย์ ทำหน้าที่ช่วยลดอาการเจ็บปวดทั้งจากการรักษาหรือจากธรรมชาติของตัวโรคด้วยการให้ยา แพทย์โภชนาการและนักโภชนบำบัด ดูแลประเภทของอาหารและสารอาหารที่ควรได้รับ พยาบาลชำนาญการด้านการดูแลผู้ป่วยมะเร็ง ดูแลและให้คำแนะนำต่างๆ อย่างรอบด้าน จิตแพทย์หรือนักจิตวิทยา คอยดูแลจิตใจและให้คำปรึกษาอย่างใกล้ชิด เพื่อให้คนไข้คลายความกังวลและมีพลังใจในการต่อสู้กับโรค นักกายภาพบำบัด ออกแบบกิจกรรมและช่วยเหลือผู้ป่วยในการฟื้นฟูร่างกาย เภสัชกรผู้ชำนาญการด้านยารักษามะเร็ง จัดยาและออกแบบยาให้เหมาะสมกับผู้ป่วยมะเร็ง แพทย์ผู้ชำนาญการด้านพันธุกรรมหรือยีน อ่านค่าการตรวจยีนกลายพันธุ์มะเร็ง รวมถึงดูแลครอบครัวผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงเป็นมะเร็ง ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม Life Cancer Center โทร. 02-734-0000 ต่อ 2720

มะเร็งเนื้อเยื่อผิวหนัง แผลฟกช้ำนำไปสู่มะเร็งได้หรือไม่ ?

มะเร็งเนื้อเยื่อผิวหนัง นพ. ธเนศ เดชศักดิพล อายุรศาสตร์มะเร็งวิทยา รายการเรื่องเด่นประเด็นดัง ช่อง MONO 29 ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Cancer Center ชั้น 3 โรงพยาบาลเวชธานี โทร. 02-734-0000 ต่อ 4500, 4501

เช็กให้ดีริดสีดวง หรือ มะเร็งทวารหนัก

ถ่ายเป็นเลือด ปวด คัน มีก้อนที่ทวารหนัก เช็กให้ดี เพราะอาการเหล่านี้อาจเป็นสัญญาณบ่งบอก “มะเร็งทวารหนัก”มะเร็งทวารหนัก มักมีอาการคล้ายกับอาการของโรคริดสีดวงทวาร รวมถึงอาจมีอาการอื่นๆ อีก เช่น ขับถ่ายผิดปกติ อุจจาระมีขนาดเล็กลง หรืออาจมีสารคัดหลั่งไหลออกมาจากทวารหนักแบบเรื้อรัง ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดมะเร็งทวารหนัก คือ “เกิดจากการติดเชื้อ HPV ซึ่งเป็นไวรัสที่ติดต่อผ่านการสัมผัสเชื้อโดยตรงและจากทางเพศสัมพันธ์” โดยสายพันธุ์ที่พบบ่อยว่าเป็นสาเหตุของมะเร็งทวารหนัก คือ HPV-16 และ HPV-18 นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ อีก เช่น อายุที่มากขึ้น การสูบบุหรี่ มีปัญหาภูมิคุ้มกันต่ำ เช่น ติดเชื้อ HIV หรือ รับประทานยากดภูมิคุ้มกัน มีพฤติกรรมทางเพศที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อ เช่น เปลี่ยนคู่นอนบ่อย มีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก หรือมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ป้องกัน ซึ่งถ้าหากตรวจวินิจฉัยแล้วว่าเป็นมะเร็งทวารหนัก แพทย์จะพิจารณาวางแผนการรักษาโดยพิจารณาจากหลายๆองค์ประกอบ เช่น ระยะ ความรุนแรง และ สุขภาพร่างกายของผู้ป่วย การรักษาหลักสำหรับมะเร็งทวารหนัก ประกอบด้วย การทำเคมีบำบัด การฉายรังสีรักษา (มักใช้ควบคู่กับการทำเคมีบำบัด) การผ่าตัด (เหมาะกับมะเร็งทวารหนักในระยะเริ่มต้น หรือก้อนมะเร็งมีขนาดเล็ก) มะเร็งทวารหนัก เป็นมะเร็งที่สามารถรักษาให้หายได้ แต่จำเป็นต้องใช้เวลาและการรักษาอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ดังนั้นหากพบว่ามีอาการดังที่กล่าวไปข้างต้นก็ควรรีบพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยโดยเร็ว ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม Life Cancer Center โทร. 02-734-0000 ต่อ 4500, 4501

ผ่าตัด ใช้ยารักษามะเร็ง หรือฉายรังสี วิธีไหนมีประสิทธิภาพในการรักษามะเร็ง

[…] T-cell (มีหน้าที่ทำลายสิ่งแปลกปลอมในร่างกายของผู้ป่วย) มาปรับเปลี่ยนโครงสร้าง หลังจากนั้นจะใส่กลับเข้าไปในร่างกายผู้ป่วยตามเดิม โดย T-cell ที่ถูกดัดแปลง จะไปเกาะจับกับผิวเซลล์ของเซลล์มะเร็ง และเริ่มต้นทำลายเซลล์มะเร็ง อย่างไรก็ตาม การรักษาโดยระบบภูมิคุ้มกัน ยังเป็นการรักษาที่ใหม่มาก ส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนการศึกษา ไม่ได้ใช้เป็นมาตรฐานการรักษาโรคมะเร็งในปัจจุบัน โดยโรคที่มีข้อมูลเพียงพอและเป็นมาตรฐานในการรักษาส่วนใหญ่ คือ มะเร็งระบบเลือด และมะเร็งต่อมน้ำเหลือง การปลูกถ่ายไขกระดูก (Bone Marrow/Stem Cell Transplantation) การปลูกถ่ายไขกระดูก มีทั้งการใช้เซลล์ต้นกำเนิดของตัวเอง หรือของบุคคลที่มีความเข้ากันได้ของระบบภูมิคุ้มกัน ข้อมูลในปัจจุบันส่วนใหญ่ยังเป็นการรักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือดขาว มะเร็งต่อมน้ำเหลือง มะเร็งระบบเลือดอื่น ๆ หรือมะเร็งเซลล์สืบพันธุ์บางชนิด ทั้งนี้ การศึกษามะเร็งในปัจจุบันค่อนข้างกว้างขวาง นำไปสู่การรักษาโรคมะเร็งที่หลากหลายและบางกรณีการรักษาจำเป็นต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ดีที่สุด โดยการเลือกวิธีในการรักษา แพทย์จะพิจารณาจากชนิดของมะเร็ง ลักษณะของเซลล์ การแสดงออกทางระบบภูมิคุ้มกันวิทยา ระยะของโรค ตำแหน่งของโรค รวมถึงสุขภาพความแข็งแรงโดยรวมของผู้ป่วย เพื่อเลือกการรักษาโรคมะเร็งที่เหมาะสมที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการรักษาโดยการผ่าตัด การใช้เคมีบำบัด หรือยารักษามะเร็งก็ตาม โดยเป้าหมายคือให้การรักษาที่หวังผลได้มากที่สุด ควบคู่ไปกับความพยายามให้เกิดผลข้างเคียงน้อยที่สุด ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม ศูนย์มะเร็ง โทร. 02-734-0000 ต่อ 4500, 4501 Cancer Treatment