

น้องชายไม่หลั่ง หลั่งช้า ปัญหาจากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นับเป็นสิ่งกวนใจคุณผู้ชาย ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่ม วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยกลางคน จึงควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุ และอาการ รวมถึงแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม ตลอดจนการเลือกรับประทานอาหารเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย และทำให้คุณผู้ชายกลับมามีความสุขกับชีวิตคู่ได้อีกครั้ง
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ตัวการทำน้องชายไม่หลั่ง หลั่งช้า
ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกว่า “Erectile Dysfunction” เป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่สามารถรักษาการแข็งตัวให้พร้อมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้ รวมไปถึงการมีปัญหาไม่หลั่งน้ำอสุจิ หรือหลั่งช้ากว่าปกติ
ภาวะนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ของคู่รัก อีกทั้งยังเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่แฝงอยู่อีกด้วย
สาเหตุที่ทำให้น้องชายไม่หลั่ง
สาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มักเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้
- โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคต่อมลูกหมากโต
- ฮอร์โมนเพศชายต่ำ คือภาวะที่ร่างกายขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทางเพศ และสมรรถภาพทางเพศ
ปัจจัยทางจิตใจ
สภาพจิตใจมีผลอย่างมากต่อสมรรถภาพทางเพศ ปัจจัยทางจิตใจที่ส่งผลกระทบ ได้แก่
- ความเครียดเรื้อรัง อันเนื่องมาจากความกดดันจากการทำงาน หรือการใช้ชีวิต ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและฮอร์โมน
- ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ยิ่งส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศมากขึ้น
- ภาวะซึมเศร้า ลดความต้องการทางเพศ และทำให้เกิดปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์
ปัจจัยทางประสาทวิทยา
ปัญหาทางประสาทวิทยาที่อาจส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ได้แก่
- การบาดเจ็บของไขสันหลัง เช่น ผู้ที่เคยผ่าตัดกระดูกสันหลัง
- ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ผู้ที่เคยผ่าตัดต่อมลูกหมาก ผู้ที่เคยมีอาการหลอดเลือดสมองแตก
พฤติกรรมการใช้ชีวิต
พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม สามารถส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศได้ เช่น
- สูบบุหรี่
- ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
- ใช้สารเสพติด
- ขาดการออกกำลังกาย
- นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
- มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน เนื่องจากขาดความใส่ใจในการดูแลสุขภาพและโภชนาการ
การใช้ยาบางชนิด
ยาบางประเภทอาจส่งผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศ เช่น
- ยาระงับประสาท
- ยาต้านการซึมเศร้า
- ยาลดความดันโลหิตบางชนิด
สัญญาณเตือนภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ที่ควรต้องไปพบแพทย์
ผู้ชายที่มีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังเผชิญภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป
- อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์
- มีปัญหาในการหลั่งน้ำอสุจิ เช่น หลั่งเร็วเกินไป หลั่งช้า หรือไม่สามารถหลั่งได้เลย
- มีความต้องการทางเพศลดลงอย่างเห็นได้ชัด
- รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
- มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศหรือระบบสืบพันธุ์
แนวทางการรักษาปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ


สำหรับการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา โดยทั่วไปมีแนวทางการรักษา ดังต่อไปนี้
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การเลิกสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือการรักษาความดันโลหิตสูง
- รักษาทางจิตวิทยา ด้วยการเข้ารับคำปรึกษาเกี่ยวกับคู่สมรส อาจช่วยแก้ไขปัญหาทางอารมณ์และความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
- รักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ในกรณีที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ
- การรับประทานยา โดยเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศ หรือยาในกลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Phosphodiesterase Type 5 ซึ่งต้องรับประทานประมาณ 30 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานขึ้น
- การใช้กระบอกสุญญากาศ โดยผู้ป่วยจะใช้ครอบที่อวัยวะเพศ และสูบอากาศออกจากท่อ ทำให้เลือดเข้าไปในอวัยวะเพศจนแข็งตัวได้ดี แล้วจึงใช้ยางรัด เพื่อไม่ให้เลือดไหลออก
- การฉีดยา Alprostadil ด้วยตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศ จนเกิดการแข็งตัว ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำวิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง
- การใช้เทคโนโลยีคลื่นกระแทก หรือ Extracorporeal Shockwave Therapy เพื่อกระตุ้นอวัยวะเพศ ให้เกิดการสร้างหลอดเลือดฝอยใหม่ เมื่อหลอดเลือดมีจำนวนมากขึ้น เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การขยายตัวของอวัยวะเพศมีประสิทธิภาพ
- การผ่าตัด ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การรักษาโรคต่อมลูกหมาก หรือการแก้ไขความผิดปกติทางกายวิภาค
- การผ่าตัดใส่แกนที่องคชาตเทียม เป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา โดยเป็นการผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมเข้าไปในแกนองคชาตเดิม ซึ่งตัวแกนแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แกนกึ่งแข็ง (Malleable Type) และแกนแบบปั๊ม (Inflatable Type)
5 อาหารเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย
นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ โดยมีอาหารที่ควรรับประทาน ดังนี้
- หอยนางรม อุดมไปด้วยสังกะสี ซึ่งช่วยในการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
- ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ และวอลนัต ที่อุดมไปด้วยไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศเพิ่มมากขึ้น
- แตงโม เนื่องจากมี Citrulline ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศ ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายได้นานขึ้น
- ปลาแซลมอน ซึ่งมีวิตามินดี ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเป็นส่วนในการช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
- ดาร์กช็อกโกแลต ที่มีสาร Flavonoids ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและลดความดันโลหิต จึงมีส่วนช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้
การรักษาปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยา การทำกายภาพบำบัด หรือการปรึกษาจิตแพทย์ ดังนั้นถ้าพบว่าตนเองมีอาการน้องชายไม่หลั่ง สามารถมาขอคำปรึกษาได้ที่ โรงพยาบาลเวชธานี มีทีมแพทย์ชำนาญการด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ที่พร้อมให้คำแนะนำ ตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างครอบคลุมในทุกมิติ ด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ติดต่อนัดหมายแพทย์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-734-0000
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
ศูนย์โรคทางเดินปัสสาวะ และศูนย์สุขภาพเพศชาย โรงพยาบาลเวชธานี
โทร. 02-734-0000
- Readers Rating
- Rated 5 stars
5 / 5 (Reviewers) - Spectacular
- Your Rating