น้องชายไม่หลั่งหลั่งช้า ปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่เกิดได้ทุกวัย - โรงพยาบาลเวชธานี

บทความสุขภาพ

น้องชายไม่หลั่งหลั่งช้า ปัญหาสมรรถภาพทางเพศที่เกิดได้ทุกวัย

Share:

น้องชายไม่หลั่ง หลั่งช้า ปัญหาจากภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ นับเป็นสิ่งกวนใจคุณผู้ชาย ซึ่งสามารถเกิดได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นวัยหนุ่ม วัยทำงาน หรือแม้แต่วัยกลางคน จึงควรทำความเข้าใจถึงสาเหตุ และอาการ รวมถึงแนวทางการรักษาอย่างเหมาะสม ตลอดจนการเลือกรับประทานอาหารเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย เพื่อช่วยบำรุงร่างกาย และทำให้คุณผู้ชายกลับมามีความสุขกับชีวิตคู่ได้อีกครั้ง

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ตัวการทำน้องชายไม่หลั่ง หลั่งช้า

ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือที่เรียกว่า “Erectile Dysfunction” เป็นภาวะที่อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว หรือไม่สามารถรักษาการแข็งตัวให้พร้อมสำหรับการมีเพศสัมพันธ์ได้ รวมไปถึงการมีปัญหาไม่หลั่งน้ำอสุจิ หรือหลั่งช้ากว่าปกติ

ภาวะนี้ส่งผลกระทบอย่างมากต่อคุณภาพชีวิตและความสัมพันธ์ของคู่รัก อีกทั้งยังเป็นสัญญาณเตือนถึงปัญหาสุขภาพอื่นๆ ที่แฝงอยู่อีกด้วย

สาเหตุที่ทำให้น้องชายไม่หลั่ง

สาเหตุของภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ มักเกิดจากปัจจัยต่าง ๆ เหล่านี้

  • โรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคความดันโลหิตสูง และโรคต่อมลูกหมากโต
  • ฮอร์โมนเพศชายต่ำ คือภาวะที่ร่างกายขาดฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน ซึ่งส่งผลต่อความต้องการทางเพศ และสมรรถภาพทางเพศ

ปัจจัยทางจิตใจ

สภาพจิตใจมีผลอย่างมากต่อสมรรถภาพทางเพศ ปัจจัยทางจิตใจที่ส่งผลกระทบ ได้แก่

  • ความเครียดเรื้อรัง อันเนื่องมาจากความกดดันจากการทำงาน หรือการใช้ชีวิต ซึ่งส่งผลต่อการทำงานของระบบประสาทและฮอร์โมน
  • ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสมรรถภาพทางเพศ ยิ่งส่งผลกระทบต่อการแข็งตัวของอวัยวะเพศมากขึ้น
  • ภาวะซึมเศร้า ลดความต้องการทางเพศ และทำให้เกิดปัญหาในการมีเพศสัมพันธ์

ปัจจัยทางประสาทวิทยา

ปัญหาทางประสาทวิทยาที่อาจส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ ได้แก่ 

  • การบาดเจ็บของไขสันหลัง เช่น ผู้ที่เคยผ่าตัดกระดูกสันหลัง
  • ความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาท ระบบต่อมไร้ท่อ เช่น ผู้ที่เคยผ่าตัดต่อมลูกหมาก ผู้ที่เคยมีอาการหลอดเลือดสมองแตก

พฤติกรรมการใช้ชีวิต

พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่เหมาะสม สามารถส่งผลเสียต่อสมรรถภาพทางเพศได้  เช่น

  • สูบบุหรี่
  • ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป
  • ใช้สารเสพติด
  • ขาดการออกกำลังกาย
  • นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
  • มีภาวะน้ำหนักเกินหรือโรคอ้วน เนื่องจากขาดความใส่ใจในการดูแลสุขภาพและโภชนาการ

การใช้ยาบางชนิด

ยาบางประเภทอาจส่งผลข้างเคียงต่อสมรรถภาพทางเพศ เช่น 

  • ยาระงับประสาท 
  • ยาต้านการซึมเศร้า 
  • ยาลดความดันโลหิตบางชนิด

สัญญาณเตือนภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ที่ควรต้องไปพบแพทย์

ผู้ชายที่มีอาการเหล่านี้ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ากำลังเผชิญภาวะเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ จึงควรปรึกษาแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยเพื่อวางแผนการรักษาต่อไป

  • อวัยวะเพศไม่สามารถแข็งตัวได้ หรือแข็งตัวได้ไม่นานพอสำหรับการมีเพศสัมพันธ์
  • มีปัญหาในการหลั่งน้ำอสุจิ เช่น หลั่งเร็วเกินไป หลั่งช้า หรือไม่สามารถหลั่งได้เลย
  • มีความต้องการทางเพศลดลงอย่างเห็นได้ชัด
  • รู้สึกเจ็บปวดระหว่างการมีเพศสัมพันธ์
  • มีอาการผิดปกติอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับอวัยวะเพศหรือระบบสืบพันธุ์

แนวทางการรักษาปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ

สำหรับการรักษาภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ ขึ้นอยู่กับสาเหตุและความรุนแรงของปัญหา โดยทั่วไปมีแนวทางการรักษา ดังต่อไปนี้

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การเลิกสูบบุหรี่ ลดการดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
  • รักษาโรคที่เป็นสาเหตุ เช่น การควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน หรือการรักษาความดันโลหิตสูง
  • รักษาทางจิตวิทยา ด้วยการเข้ารับคำปรึกษาเกี่ยวกับคู่สมรส อาจช่วยแก้ไขปัญหาทางอารมณ์และความสัมพันธ์ที่ส่งผลต่อสมรรถภาพทางเพศ
  • รักษาด้วยฮอร์โมนทดแทน ในกรณีที่มีภาวะฮอร์โมนเพศชายต่ำ 
  • การรับประทานยา โดยเป็นยาที่มีฤทธิ์ในการขยายหลอดเลือด เพื่อให้เลือดไหลเวียนไปที่อวัยวะเพศ หรือยาในกลุ่มยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ Phosphodiesterase Type 5 ซึ่งต้องรับประทานประมาณ 30 นาทีก่อนมีเพศสัมพันธ์ เพื่อเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ช่วยให้อวัยวะเพศแข็งตัวได้นานขึ้น
  • การใช้กระบอกสุญญากาศ โดยผู้ป่วยจะใช้ครอบที่อวัยวะเพศ และสูบอากาศออกจากท่อ ทำให้เลือดเข้าไปในอวัยวะเพศจนแข็งตัวได้ดี แล้วจึงใช้ยางรัด เพื่อไม่ให้เลือดไหลออก
  • การฉีดยา Alprostadil ด้วยตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้หลอดเลือดขยายตัว และนำเลือดเข้าสู่อวัยวะเพศ จนเกิดการแข็งตัว ซึ่งแพทย์จะเป็นผู้ให้คำแนะนำวิธีการฉีดยาที่ถูกต้อง
  • การใช้เทคโนโลยีคลื่นกระแทก หรือ Extracorporeal Shockwave Therapy เพื่อกระตุ้นอวัยวะเพศ ให้เกิดการสร้างหลอดเลือดฝอยใหม่ เมื่อหลอดเลือดมีจำนวนมากขึ้น เลือดจะไหลเวียนไปเลี้ยงอวัยวะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้การขยายตัวของอวัยวะเพศมีประสิทธิภาพ
  • การผ่าตัด ในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น เช่น การรักษาโรคต่อมลูกหมาก หรือการแก้ไขความผิดปกติทางกายวิภาค
  • การผ่าตัดใส่แกนที่องคชาตเทียม เป็นทางเลือกสุดท้ายในการรักษา โดยเป็นการผ่าตัดใส่แกนองคชาตเทียมเข้าไปในแกนองคชาตเดิม ซึ่งตัวแกนแบ่งออกเป็น 2 แบบ คือ แกนกึ่งแข็ง (Malleable Type) และแกนแบบปั๊ม (Inflatable Type)

5 อาหารเพิ่มสมรรถภาพเพศชาย

นอกจากการรักษาทางการแพทย์แล้ว การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ก็สามารถช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้ โดยมีอาหารที่ควรรับประทาน ดังนี้

  • หอยนางรม อุดมไปด้วยสังกะสี ซึ่งช่วยในการผลิตฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน และกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด
  • ถั่วต่างๆ โดยเฉพาะถั่วลิสง ถั่วอัลมอนด์ และวอลนัต ที่อุดมไปด้วยไลโปโปรตีนความหนาแน่นสูง (HDL) ที่ช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศเพิ่มมากขึ้น 
  • แตงโม เนื่องจากมี Citrulline ที่ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดที่ไปหล่อเลี้ยงอวัยวะเพศ ช่วยในการแข็งตัวของอวัยวะเพศชายได้นานขึ้น
  • ปลาแซลมอน ซึ่งมีวิตามินดี ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือด และเป็นส่วนในการช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน
  • ดาร์กช็อกโกแลต ที่มีสาร Flavonoids ช่วยปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดและลดความดันโลหิต จึงมีส่วนช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศได้

การรักษาปัญหาเสื่อมสมรรถภาพทางเพศขึ้นอยู่กับสาเหตุที่ก่อให้เกิดปัญหา แพทย์อาจพิจารณาให้การรักษาด้วยยา การทำกายภาพบำบัด หรือการปรึกษาจิตแพทย์ ดังนั้นถ้าพบว่าตนเองมีอาการน้องชายไม่หลั่ง สามารถมาขอคำปรึกษาได้ที่ โรงพยาบาลเวชธานี มีทีมแพทย์ชำนาญการด้านระบบทางเดินปัสสาวะ ที่พร้อมให้คำแนะนำ ตรวจวินิจฉัย และทำการรักษาอย่างครอบคลุมในทุกมิติ ด้วยเทคโนโลยีและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย ติดต่อนัดหมายแพทย์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 02-734-0000

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

ศูนย์โรคทางเดินปัสสาวะ และศูนย์สุขภาพเพศชาย โรงพยาบาลเวชธานี
 โทร. 02-734-0000

  • Readers Rating
  • Rated 5 stars
    5 / 5 (2 )
  • Your Rating