บทความสุขภาพ

ริดสีดวงทวาร รักษาได้ไม่น่ากลัวอย่างที่คิด

Share:

โรคริดสีดวงทวาร เป็นโรคที่หลายคนเป็นแล้ว มักจะไม่ค่อยมาพบแพทย์ตั้งแต่เริ่มเป็นในระยะแรกๆ แต่ปล่อยไว้จนลุกลามและส่งผลกระทบกับชีวิตประจำวัน จึงค่อยมาพบแพทย์ เพียงเพราะกลัวว่าต้องผ่าตัด

นพ.อนนต์ ใจอ่อนน้อม ศัลยแพทย์ทั่วไป ประจำโรงพยาบาลเวชธานี ได้กล่าวว่าโรคริดสีดวงทวาร เกิดจากเส้นเลือดฝอยโป่งพอง จนเกิดก้อนเนื้อบวมบริเวณปากทวารหนัก สามารถแบ่งความรุนแรงของอาการออกเป็น 4 ระยะ ซึ่งโรคริดสีดวงทวาร นี้มีสาเหตุจากการกินอาหารที่มีกากใยน้อย ดื่มน้ำน้อย ไม่ออกกำลังกาย รวมถึงพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น เล่นมือถือหรืออ่านหนังสือขณะขับถ่าย เบ่งอุจจาระรุนแรงบ่อย หากยังไม่ปรับพฤติกรรม อาจทำให้เส้นเลือดฝอยโป่งพองมากขึ้นได้ โดยส่วนใหญ่แล้ว โรคริดสีดวงทวารมักจะเกิดกับคนในช่วงอายุ 40 – 60 ปีขึ้นไป เป็นได้ทั้งชายและหญิง

 สำหรับการตรวจวินิจฉัยว่าอาการที่เป็นอยู่ คือโรคริดสีดวงหรือไม่ แพทย์จะมีวิธีตรวจ 5 วิธีดังนี้

  1. ตรวจขอบทวารหนัก โดยปกติอาจจะเห็นริดสีดวงทวารหนักยื่นออกมา
  2. ตรวจทวารหนักด้วยมือ ซึ่งวิธีการนี้จะช่วยแยกแยะทวารหนักออกจากโรคอื่นๆ ที่มีอาการคล้ายกับโรคริดสีดวงทวารหนัก โดยเฉพาะก้อนเนื้อ หรือแผลบริเวณทวารหนัก
  3. ตรวจด้วยการส่องดูทวารหนัก ด้วยอุปกรณ์ Proctoscope เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอายุมาก และพบว่ามีประวัติขับถ่ายผิดปกติเรื้อรัง
  4. ตรวจด้วยการส่องดูลำไส้ใหญ่และทวารหนัก ด้วยกล้อง Colonoscope
  5. ส่งตรวจด้วยสวนสีX-ray ลำไส้ใหญ่ Barium enema แพทย์จะใช้วิธีนี้ต่อเมื่อผู้ป่วยมีอาการไม่ชัดเจน หรือ มีอาการโรคอื่นร่วมด้วย รวมทั้งใช้ตรวจในผู้ป่วยสูงอายุ

ส่วนการรักษาริดสีดวงทวาร นพ.อนนต์ อธิบายว่าไม่จำเป็นต้องผ่าตัดริดสีดวงเสมอไป เนื่องจากปัจจุบันมีเทคนิคการรักษาด้วยการเลเซอร์ริดสีดวง ซึ่งเหมาะกับผู้ป่วยที่เป็นโรคริดสีดวงทวารระยะที่ 2 – 3 เนื่องจากเป็นระยะที่จะให้ผลการรักษาได้ดีที่สุด ส่วนผู้ป่วยริดสีดวงทวารระยะที่ 1 แพทย์อาจให้ยาระบายอ่อนๆ ควบคู่กับการแนะนำให้ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม เช่น กินอาหารที่มีกากใยให้มากขึ้น ดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมเสี่ยง ส่วนผู้ป่วยระยะที่ 4 อาจใช้เทคนิคควบคู่กันระหว่างเลเซอร์ริดสีดวงและผ่าตัดรักษาริดสีดวง เนื่องจากเป็นระยะที่รุนแรง

โดยการทำงานของเลเซอร์ริดสีดวง แพทย์จะใช้หัวเลเซอร์จี้ทำลายเส้นเลือดที่มาเลี้ยงติ่งเนื้อริดสีดวง ทำให้ริดสีดวงที่มีขนาดใหญ่ค่อยๆเล็กลงจนฝ่อไปเอง ซึ่งข้อดีของการทำเลเซอร์ริดสีดวงคือผู้ป่วยจะไม่มีแผลผ่าตัด เจ็บน้อยกว่าและฟื้นตัวไวกว่า ส่วนการดูแลตัวเองหลังการทำเลเซอร์ริดสีดวง เพียงแค่แช่น้ำอุ่นประมาณ 1 สัปดาห์ เพื่อลดอาการปวด ป้องกันการติดเชื้อ และทำให้ริดสีดวงยุบเร็วขึ้น

ทั้งนี้ หากพบว่าตนเองถ่ายอุจจาระแล้วมีก้อนหรือมีเลือดสดออกมา ควรมาปรึกษาแพทย์เพื่อให้แพทย์ได้ตรวจรักษาและให้คำแนะนำที่ถูกต้อง

อ่านเพิ่มเติม เกี่ยวกับนวัตกรรมรักษาริดสีดวงแบบไร้แผลและไม่เจ็บ

HOTLINE 02 734 0000

การนัดหมายและติดต่อสอบถาม

ศูนย์ศัลยกรรมทั่วไป

โทร. (02) 734 – 0000 ต่อ 4500, 4501

  • Readers Rating
  • Rated 3 stars
    3 / 5 (20 )
  • Your Rating