บทความสุขภาพ

เทคโนโลยีจัดฟันใส ดีไซน์ 3มิติ เฉพาะบุคคล สร้างความมั่นใจ ด้วยยิ้มสวยเป็นธรรมชาติ

Share:

ฟันเรียงตัวผิดปกติ ฟันห่าง ฟันเก ฟันซ้อน ฟันยื่น การสบฟันผิดปกติ ขากรรไกรอยู่ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ไม่ได้ส่งผลต่อบุคคลิกภาพเพียงอย่างเดียว แต่ยังกระทบกับประสิทธิภาพในการบดเคี้ยว และอาจนำมาสู่ปัญหาสุขภาพช่องปากได้ เพราะเป็นอุปสรรคต่อการทำความสะอาด จึงเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดฟันฝุ ฟันสึกกร่อน โรคเหงือก และโรคทางช่องปากอื่น ๆ

การจัดฟัน จึงเข้ามามีบทบาทในการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างฟัน เพื่อแก้ปัญหาให้ฟันเรียงตัวกันอย่างเหมาะสม เพื่อสุขภาพช่องปากที่แข็งแรง อีกทั้งปัจจุบันยังมีนวัตกรรมการจัดฟันแบบใส ไม่เป็นอุปสรรคด้านความสวยงาม ช่วยให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจแม้อยู่ในระหว่างการรักษา

เทคโนโลยีจัดฟันใส ออกแบบ 3 มิติ เฉพาะบุคคล

การจัดฟันแบบใส (Invisalign Personal 3D Design) เป็นทางเลือกในการจัดฟันที่มองไม่เห็นอุปกรณ์ เป็นนวัตกรรมกระตุ้นทำให้เกิดการปรับแต่งโครงสร้างฟันใหม่ ให้เรียงตัวสวยงามเป็นธรรมชาติ จากการออกแบบและวางแผนการรักษาอย่างเหมาะสมกับแต่ละบุคคล

ปัจจุบันนวัตกรรมและเทคโนโลยี เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการบูระณะทางทันตกรรม เพื่อยกระดับคุณภาพการรักษาให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้น สามารถนำเทคโนโลยีทางทันตกรรมมาใช้ ตั้งแต่การบันทึกลักษณะภายในช่องปากด้วยกล้องสแกน Intraoral Scanner โดยสิ่งที่บันทึกจากช่องปาก จะถูกแปลงเป็นภาพ 3มิติ เพื่อนำไปใช้ในการออกแบบ และวางแผนบูรณะฟันอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป

ต่อด้วยการใช้ระบบคอมพิวเตอร์ในการออกแบบ Computer Aided Design: CAD เพื่อจำลองแบบการรักษาขึ้นมาในรูปแบบดิจิตอล โดยทันตแพทย์สามารถออกแบบ วางแผนการเคลื่อนตัวของฟัน ก่อนทำการสรุปแผนการรักษา และเริ่มการผลิตชุดอุปกรณ์จัดฟันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ Computer Aided Manufacturing: CAM

การจัดฟันแบบใส (Invisalign Personal 3D Design) เป็นเครื่องมือจัดฟันที่ถูกออกแบบมาเฉพาะบุคคล ด้วยระบบคอมพิวตอร์ การสวมใส่ชุดอุปกรณ์การจัดฟันแบบใส จะค่อย ๆ ช่วยจัดเรียงฟัน ให้เคลื่อนฟันไปยังตำแหน่งที่เหมาะสม จนกระทั่งจัดเรียงฟันอย่างเป็นธรรมชาติ ตามที่ได้ออกแบบไว้ นอกจากนี้ การจัดฟันแบบใส ยังใช้ระยะเวลาการจัดฟันน้อยกว่าการจัดฟันติดเหล็กแบบเดิมด้วย

ปัญหาเหล่านี้ สามารถแก้ไขได้ด้วยการจัดฟันแบบใส

การจัดฟันแบบใส สามารถแก้ไขปัญหาภาวะสบฟันผิดปกติได้ ตั้งแต่เล็กน้อย ปานกลาง ไปจนถึงรุนแรง ดังนี้

  • ฟันห่าง มีช่องว่างระหว่างฟัน
  • ฟันสบกันแบบไขว้ กรามบนและล่างไม่สบกัน
  • ฟันสบลึก ฟันบนยื่น
  • ขากรรไกรล่างยื่น ฟันล่างยื่น
  • ฟันซ้อนเก ไม่มีพื้นที่เพียงพอสำหรับฟัน
  • ฟันสบเปิด มีช่องว่างตามแนวระหว่างฟันหน้า

ขั้นตอนการจัดฟันแบบใส

  • พบทันตแพทย์เพื่อประเมินการรักษา ถ่ายภาพเอกซเรย์ สแกนดิจิตอล เพื่อวางแผนการรักษา
  • ทันตแพทย์จะวางแผนการรักษา ด้วยภาพ 3 มิติ และเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ที่ออกแบบเพื่อให้เหมาะสมกับคนไข้เฉพาะบุคคล
  • ชุดอุปกรณ์จัดฟันแบบใส เข้าสู่กระบวนการผลิต ให้ตรงกับที่วางแผนไว้
  • ในครั้งแรกคนไข้จะได้รับชุดอุปกรณ์จัดฟันแบบใส สำหรับใส่ทุกวัน จำนวน 3-4 ชุด
  • สำหรับการสวมใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบใส จะเปลี่ยนชุดใหม่ทุก 1-2 สัปดาห์
  • พบทันตแพทย์เพื่อติดตามความคืบหน้าของการรักษา ทุก 6-8 สัปดาห์ พร้อมรับชุดอุปกรณ์จัดฟันชุดต่อไป
  • กระบวนการจัดฟันแบบใสเสร็จสิ้น ดูแลโครงสร้างฟันใหม่ ด้วยการสวมรีเทนเนอร์ตามที่ทันตแพทย์แนะนำ

ข้อดีของการจัดฟันแบบใส

  • อุปกรณ์จัดฟันสามารถถอดออกได้ เอื้อให้สามารถแปรงฟัน และใช้ไหมขัดฟันได้สะดวก ช่วยรักษาสุขภาพช่องปากระหว่างการจัดฟันได้เป็นอย่างดี
  • อุปกรณ์จัดฟันสามารถถอดออกได้ จึงสะดวกต่อการรับประทานอาหาร และดื่มเครื่องดื่ม
  • ใช้ระยะเวลาการจัดฟันน้อยกว่าวิธีปกติ เห็นผลลัพธ์ของการรักษา ตั้งแต่เดือนแรกที่สวมใส่อุปกรณ์จัดฟันแบบใส
  • อุปกรณ์ทำจากพลาสติกผิวสัมผัสเรียบ ไม่ระคายเคืองต่อเนื้อเยื่อในช่องปาก และไม่ก่อให้เกิดปัญหาอุปกรณ์จัดฟันบาดช่องปาก
  • มองเห็นอุปกรณ์จัดฟันได้ยาก ไม่เป็นอุปสรรคต่อความสวยงาม
  • พบทันตแพทย์ทุก 6-8 สัปดาห์ ลดความถี่ในการเดินทาง มีเวลาในการทำสิ่งต่าง ๆ มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการจัดฟันแบบใส จะสามารถถอดอุปกรณ์ออกระหว่างวันได้ แต่ทันตแพทย์แนะนำให้สวมใส่อุปกรณ์จัดฟัน 20-22 ชั่วโมง/วัน ระหว่างการรักษา เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเห็นผลตามเวลาที่กำหนด

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม

ศูนย์ทันตกรรม และรากฟันเทียม โรงพยาบาลเวชธานี
โทร 02-734-0000 ต่อ 3000 , 3004

  • Readers Rating
  • Rated 5 stars
    5 / 5 (3 )
  • Your Rating