บทความสุขภาพ

ฉีดยาระงับอาการปวดหลังจากเส้นประสาท

Share:

อาการปวดหลังเป็นปัญหาทั่วไปที่ศัลยแพทย์สมองและระบบประสาทจะเผชิญอยู่ทุกวัน โดยสาเหตุของอาการปวดหลังมาจากอุบัติเหตุ ลักษณะการดำเนินชีวิตของคนเมือง หรือท่าทางการทำงานที่ผิดท่า อาการปวดมีหลากหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการปวดร้าวลงอวัยวะส่วนอื่น ปวดหลังเฉียบพลัน หรือปวดตลอดเวลา โดยอาจจะมีอาการปวด 2-3 วันหรือมีอาการปวดยาวนานเป็นสัปดาห์ บางรายถึงขั้นปวดเรื้อรังยาวนานเป็นเดือน ในการรักษาขั้นต้นแพทย์จะให้คนไข้รับประทานยาหรือพักผ่อนเพื่อบรรเทาอาการปวด แต่หากอาการไม่ดีขึ้นหรือไม่มีเหตุผลที่ควรจะรอต่อไป แพทย์จะแนะนำวิธีการรักษาทางเลือกอื่นๆ

แพทย์จะหาสาเหตุของอาการปวดจากประวัติอาการเจ็บป่วยของคนไข้และผลการวินิจฉัยตรวจร่างกายทางประสาทวิทยา การตรวจด้วยวิธีการเอกซเรย์ ทำ CT และ MRI ที่บริเวณหลังระดับเอว จะช่วยให้การวินิจฉัยโรคของแพทย์แม่นยำขึ้น ทางเลือกหนึ่งในการบรรเทาอาการปวดหลังคือการฉีดยาเข้าที่หลัง

การฉีดยาเข้าที่หลัง หรือ Epidural Steroid Injection เป็นทางเลือกในการช่วยบรรเทาอาการปวดหลัง ปวดขา หรือปวดหลังกับขาแก่คนไข้ แพทย์จะฉีดส่วนผสมของยา Triamcinolone ซึ่งเป็นยาในกลุ่มคอร์ติโคสเตอรอยด์ และยาระงับความรู้สึก ในการฉีดยาดังกล่าว แพทย์จะใช้เครื่องมือ Pain Control Manipulator ซึ่งช่วยตรวจวินิจฉัยอาการและบรรเทาอาการปวดหลังด้วย

สาเหตุของอาการปวดหลัง

กลุ่มอาการปวดหลังสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่มคือ

  • ปวดหลังร่วมกับอาการปวดขา ส่วนใหญ่พบในผู้สูงอายุ สาเหตุมาจากช่องไขสันหลังแคบ การรักษาโดยผ่าตัดโดยการเข้าไปขยายช่องที่แคบ จะได้ผลดี
  • ปวดหลังอย่างเดียว ไม่มีอาการปวดร้าวลงขา สาเหตุส่วนใหญ่มักมาจากกล้ามเนื้ออักเสบ
  • ปวดขาอย่างเดียว ไม่มีอาการปวดหลัง สาเหตุมาจากเส้นประสาทอักเสบ การรักษาด้วยยาและกายภาพบำบัดจะได้ผลดี
  • ปวดหลังแต่ไม่เกี่ยวกับระบบประสาท เช่น ไส้ติ่งอักเสบ

ผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังควรมาพบแพทย์เพื่อทำการรักษาและหาสาเหตุ โดยผู้ป่วยกลุ่มที่ 1-3 การรักษาเบื้องต้นที่ได้ผลดีคือ การใช้ยาและการทำกายภาพบำบัด ยกเว้นผู้ป่วยที่ตรวจไม่พบอาการอ่อนแรงและระบบประสาทผิดปกติ ควรทำการถ่ายภาพรังสี (MRI, CT scan) เพื่อหาสาเหตุของอาการปวด

ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการจาก Office syndrome ซึ่งมีสาเหตุมาจากการนั่งผิดท่า นั่งท่าเดียวเป็นเวลานานๆ หรือการใช้แรงงานเป็นเวลานาน (ท่าทาง Ergonomic) จะทำให้ข้อต่อของกระดูกสันหลังและกล้ามเนื้อรับน้ำหนักผิดปกติ ผู้ป่วยควรได้รับการซักประวัติและตรวจร่างกายเพื่อบอกตำแหน่งที่มีอาการและทำการรักษาที่สาเหตุ

ผู้ป่วย 1 ใน 3 ราย มีสาเหตุการปวดหลังจากการกดทับ ผู้ป่วยจะมีอาการชาและอ่อนแรงร่วมด้วย รักษาโดยการผ่าตัดจะให้ผลดีที่สุด ส่วน 2 ใน 3 ราย เป็นกลุ่มผู้ป่วยที่มีสาเหตุมาจากการอักเสบและมีภูมิคุ้มกันตอบสนอง สามารถรักษาโดยการฉีดยาเข้าเยื่อหุ้มของไขสันหลัง

กลุ่มคนไข้ที่เหมาะกับการฉีดยาระงับอาการปวดหลังจากเส้นประสาท

  • คนไข้ที่อายุมาก มีความเสี่ยงไม่สามารถผ่าตัดได้
  • คนไข้ที่มีอาการปวดหลัง และไม่สามารถรักษาให้หายด้วยการผ่าตัด
  • คนไข้ที่มีอาการปวดหลังที่ไม่ทราบสาเหตุของอาการ
  • คนไข้ที่มีอาการปวดหลังส่วนบนและล่าง ที่มีสาเหตุมาจากการกดทับเส้นประสาท มีเจลในหมอนรองกระดูกไหลกดทับเส้นประสาทและมีอาการปวดร่วมด้วย หรือไม่มีอาการปวดร่วมด้วย

ข้อดีของการฉีดยาด้วยวิธีนี้

  • แพทย์ไม่ได้ใช้ needle ในการฉีด จึงควบคุมการฉีดได้ดีกว่า และไม่แข็งเท่า needle
  • สามารถฉีดได้ตรงจุดที่คนไข้มีอาการ
  • มีความปลอดภัยมากกว่า จะมีตัว guiding บอกทิศทางว่าจุดใด
  • การฉีดยาดังกล่าว สามารถช่วยวินิจฉัยอาการของคนไข้ได้ด้วยว่ามีปัญหาที่จุดใด
  • คนไข้ไม่ต้องนอนพักรักษาตัวที่ รพ. สามารถกลับบ้านได้ (เป็น OPD)

การรักษา

การรักษาเบื้องต้น ผู้ป่วยจะได้รับยาแก้ปวด ร่วมกับการออกกำลังกายและการทำกายภาพบำบัด หากมีอาการปวดไม่ดีขึ้น และมีอาการอ่อนแรงยาวนาน 2 สัปดาห์ถึง 1 เดือน ควรทำ MRI และ CT scan เพื่อหาสาเหตุของอาการดังกล่าว

การรักษาโดยฉีดยาเข้าเยื่อหุ้มของไขสันหลัง โดยทำที่บริเวณหลังเท่านั้น มีข้อบ่งชี้คือ

  • การตรวจร่างกายและภาพถ่ายรังสีไม่สอดคล้องกัน เช่น ผู้ป่วยมีอาการปวดหลังและมีอาการร้าวลงขา ซึ่งเกิดจากความผิดปกติของเส้นประสาทที่เอวระดับ 4 แต่ผลตรวจ MRI ไม่สามารถเห็นได้ชัดเจน และผู้ป่วยได้รับประทานยาร่วมกับทำกายภาพบำบัดแล้วอาการไม่ดีขึ้น
  • ผู้ป่วยเคยได้รับการผ่าตัดและใส่โลหะดาม แต่อาการปวดยังไม่หาย
  • กลุ่มผู้ป่วยสูงอายุและมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ ความดันโลหิต ซึ่งการผ่าตัดหลังจะใช้เวลานาน 4-6 ชั่วโมง อาจมีผลกระทบกับผู้ป่วยได้

การฉีดยาเพื่อบรรเทาอาการปวดจะอยู่ได้ 3 เดือนถึง 1 ปีขึ้นอยู่กับอาการของผู้ป่วยแต่ละคน การรักษาด้วยการฉีดยาเหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีข้อจำกัดไม่สามารถผ่าตัดได้ โดยบริเวณที่สามารถฉีดยาเข้าไปได้คือ กระดูกสันหลังและเส้นประสาทระดับเอวที่ 1-5 เนื่องจากไขสันหลังที่ควบคุมสั่งงานจากสมองจะสิ้นสุดที่กระดูกสันหลังระดับเอวที่ 1 เพราะฉะนั้นการฉีดยาระดับกระดูกสันหลังระดับล่างถือว่าปลอดภัย การฉีดยาครั้งเดียวสามารถบรรเทาและรักษาอาการปวดได้หลายๆ ตำแหน่ง ซึ่งเทคนิคดังกล่าวเป็นที่นิยมมากในแถบยุโรป

ขั้นตอนการฉีดยา

แพทย์จะจัดท่าให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ หลังจากนั้นทำการหาตำแหน่งของเส้นประสาทที่ผิดปกติ แล้วสอดเข็มเข้าไปในตำแหน่งดังกล่าว แล้วทำการฉีดสี X-Ray และฉีดยาที่มีส่วนผสมของ Steroid และยาชา

การฉีดยาด้วยวิธีนี้แตกต่างจากการฉีดยาทั่วไป โดยศัลยแพทย์จะใช้อุปกรณ์ในการฉีดยาคือเครื่องมือ Pain Control Manipulator ซึ่งคิดค้นโดยศัลยแพทย์ระบบประสาทและผลิตที่ประเทศเกาหลี อุปกรณ์ดังกล่าวจะมีสายสวนสามารถสอดเข็มผ่านได้ ข้างในท่อมีโลหะและสปริงเคลือบอยู่ สามารถเห็นได้จากการ X-Ray ยาจะถูกฉีดผ่านท่อเพื่อไปเคลือบอยู่บริเวณเหนือเยื่อหุ้มของไขสันหลัง ข้อดีคือ สามารถควบคุมให้ปลายท่อขยับได้เพื่อหาตำแหน่งเส้นประสาทที่ต้องการจะฉีดยา หลังจากฉีดยาแล้วผู้ป่วยสามารถกลับมาทำงานและใช้ชีวิตได้ตามปกติ จากผลการศึกษาและวิจัย สามารถฉีดได้เดือนละครั้ง ควรระวังในผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวานและมีประวัติการแพ้ยา Steroid และยาชา


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม / ปรึกษาอาการต่างๆกับคุณหมอ

  • Readers Rating
  • Rated 3.5 stars
    3.5 / 5 (10 )
  • Your Rating